ดูแบบคำตอบเดียว
  #27  
เก่า 15-04-2013, 09:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,566
ได้ให้อนุโมทนา: 151,678
ได้รับอนุโมทนา 4,410,895 ครั้ง ใน 34,156 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"ถ้าอ่านหนังสือเรื่องเพชรพระอุมา แงซายไม่ค่อยนอนตอนกลางคืน ขนาดรพินทร์ย่องไปแงซายก็ยังรู้ตัวทุกที แอบเตะแงซายก็กันทัน รพินทร์เขาถามว่า “ทำไมไม่หลับไม่นอนบ้างวะ ?” แงซายบอกว่า “หลวงพ่อพระธุดงค์บอกว่า เจ้าจงตื่นขณะที่โลกหลับ” แงซายของเราตีความธรรมะพระพุทธเจ้าเหลือสลึงเดียว เลยไม่ยอมนอน

แทนที่เราเองมีวิชชา มีปัญญาเอาตัวรอดจากกระแสโลก ไม่โดนอวิชชาบดบังจนมืดบอดเหมือนกับบุคคลอื่น ไปตีความว่ากลางคืนให้ตื่น แบบเดียวกับสิงคาลมาณพที่ไปไหว้ทิศ พ่อสอนไว้ก่อนตายว่าจงไหว้ทิศทั้งหก ก็ไปไหว้ซ้าย ไหว้ขวา ไหว้หน้า ไหว้หลัง ไหว้บน ไหว้ล่างทุกวัน พระพุทธเจ้าเดินไปเห็นว่าเคร่งครัดดี ในเมื่อเคร่งครัดดีจึงตรัสสอนว่า การไหว้ทิศตามที่พ่อสอนนั้นเป็นการดี เพราะทำตามคำสั่งของพ่อ เป็นการแสดงออกถึงความกตัญญูกตเวที แต่ถ้าเป็นตถาคต ตถาคตจะไหว้ทิศอย่างนี้ แล้วพระองค์ท่านก็บอกให้ว่า ทิศเบื้องบนคือสมณชีพราหมณ์ ทิศเบื้องล่างคือข้าทาสบริวาร ทิศเบื้องขวาคือครูบาอาจารย์ ทิศเบื้องซ้ายมิตรสหาย ทิศเบื้องหน้าคือบิดามารดา ทิศเบื้องหลังคือบุตรภรรยา

เราเห็นได้ว่าธรรมะของพระพุทธเจ้าจริง ๆ นั้น ประยุกต์เข้ากับยุคสมัย ไม่คัดค้านใคร คล้อยตามเขาแล้วนำเสนอในสิ่งที่ดีกว่า พระองค์ท่านไปสอนชฎิล ๓ พี่น้องก็เหมือนกัน ชฎิล ๓ พี่น้องท่านบูชาไฟ พระพุทธเจ้าท่านก็ตรัสสรรเสริญการบูชาไฟเป็นของดี แต่ถ้าตถาคตจะบูชาไฟอย่างนี้ แล้วท่านก็บอกว่า ราคัคคินา โทสัคคินา โมหัคคินา ราคะเป็นไฟ โทสะเป็นไฟ โมหะเป็นไฟ เป็นไฟเผาผลาญให้ร้อน ร้อนด้วยอะไร ร้อนทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ถ้าใครดับได้ก็เย็นสบาย พอชฎิล ๓ พี่น้องส่งกำลังใจตามคล้อยตามพระธรรมก็บรรลุมรรคผล

ฉะนั้น..พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้คัดค้าน พระองค์ท่านอยู่ท่ามกลางความเชื่อที่สุดโต่ง ๒ ด้าน เขาเชื่อว่าทรมานตนแล้วจะบรรลุ กับเชื่อว่าเสพสุขให้เต็มที่จนเบื่อไปเองแล้วจะหลุดพ้นได้ ในเมื่อพระองค์ท่านไปเสนอแนวทางใหม่ ถ้าไปค้านเขาตรง ๆ คนที่เชื่อฝังหัวว่าต้องอย่างนั้นก็จะไม่ยอมรับ ในเมื่อพระองค์ท่านไม่ค้าน แถมชมว่าของเขาดี เขาก็มีกำลังใจ และรู้สึกว่าพระองค์ท่านเป็นพวกเดียวกัน คราวนี้พูดอะไรเขาก็จะฟัง แล้วคนสมัยนั้นปัญญาเขามาก ในเมื่อพูดแล้วฟัง คิดตามไปก็ได้มรรคได้ผลกันไป ก็เลยทำให้ศาสนาพุทธแผ่กระจายได้กว้างขวางรวดเร็วมาก"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-04-2013 เมื่อ 10:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 186 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา