ดูแบบคำตอบเดียว
  #41  
เก่า 13-10-2011, 21:06
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,491 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : วิธีการฝึกเจโตปริยญาณต้องทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วก็คือทิพจักขุญาณ คือตัวมโนมยิทธินั่นเอง แต่ว่าใช้ในการดูจิตดูใจของคนอื่น ว่าตอนนี้เขาคิดอะไร เขาจะพูดอะไร จะทำอะไร แต่ถ้าดูแบบนี้ประโยชน์จะมีน้อย

ที่สำคัญก็คือให้ดูใจตัวเองว่า ตอนนี้มีรัก โลภ โกรธ หลง อยู่หรือเปล่า ? ถ้าหากมีก็ขับไล่ออกไป แล้วระวังไว้อย่าให้เข้ามา แล้วเรามีความดีอยู่หรือเปล่า ? ถ้าไม่มีก็สร้างให้มีขึ้นมา ถ้ามีอยู่แล้วก็รักษาให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป เพราะฉะนั้น..อย่าไปใช้ผิด รู้ใจคนอื่นอย่างเก่งก็แค่ตื่นเต้น แต่ไม่ได้ช่วยให้ตัดกิเลสเลย

ถาม : แต่ถ้าฝึกลักษณะนี้ก็จะตรวจสอบยากใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ถ้าหากว่าทำจริง ถึงเวลาเป็นก็จะรู้เอง

ถาม : ตอนนี้ผมฝึกทรงอารมณ์สมาธิให้เป็นปกติ ก็คือรู้ลมหายใจตลอดเวลา
ตอบ : ควรทำ อย่าเผลอหลุด หลุดเมื่อไรมีหวังถูกรัก โลภ โกรธ หลง ตีหงายท้องเลย..!

ถาม : คราวนี้เวลาเผลอ จิตเหมือนจะดึงกลับมาภาวนาเอง
ตอบ : จิตเคยชินกับทางไหนก็ไปทางนั้น ก่อนหน้านี้เราชินกับรัก โลภ โกรธ หลง ถึงเวลาใจก็ไปรัก โลภ โกรธ หลง แต่ถ้าใจเคยชินกับความดีก็จะไปกับความดี ทำแล้วรักษาให้ได้ ถ้าทำแล้วรักษาไม่ได้ ก็เสียเวลาเปล่า
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2011 เมื่อ 01:43
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 212 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา