ดูแบบคำตอบเดียว
  #23  
เก่า 01-05-2016, 14:21
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,963 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สำหรับญาติโยมที่ไปช่วยพระตอนบิณฑบาต ส่วนใหญ่แล้วยังไปเดินเกะกะรถยนต์เขาอยู่ดี ถ้าเป็นคนเคยขับรถไม่น่าจะทำอย่างนั้น แต่บางทีคนขับรถพอถึงเวลาออกจากหลังพวงมาลัยมาก็ลืมอีก

การที่เราเดินล้ำเข้าไปในถนนแม้แค่คืบเดียว ก็ทำให้รถที่วิ่งมาไม่แน่ใจว่าจะพ้นหรือเปล่า เพราะว่าบ้านเราขับรถพวงมาลัยขวา ถึงเวลาเขามองซ้าย มุมด้านซ้ายจะโดนบังหมด มองไม่เห็น นอกจากอยู่ระยะก่อนรถยนต์วิ่งถึงหรือว่าวิ่งเลยไปแล้ว คราวนี้ในช่วงระยะที่รถยนต์กำลังจะวิ่งผ่าน เขากะระยะไม่ถูกว่าจะเฉี่ยวชนเราหรือไม่ แล้วพวกเราก็มักจะเดินกันเต็มถนนเพราะเราเห็นว่าไม่โดนรถ แต่รถนะไม่เห็น รถจะคิดว่าโดนเราอยู่เสมอ เขาจึงไปไม่ได้แล้วก็พาให้รถติด ไม่ต้องเมตตาไปยืนโบกให้เขา แค่เราถอยมาเขาก็ไปได้แล้ว ส่วนใหญ่ยืนล้ำไปค่อนถนนแล้วดันไปโบกให้เขาอีก

จำไว้แม่น ๆ ว่า ถ้าเคยขับรถโปรดสังเกตด้วยว่า เราจะเห็นว่าช่องทางนั้นไปได้หรือไม่ต่อเมื่อเรายังไปไม่ถึงหรือว่าวิ่งเลยไปแล้ว ถ้าในระหว่างนั้นจะมองไม่เห็น เพราะว่ามุมซ้ายมือจะโดนประตูรถบังหมด กะระยะไม่ถูก สมัยอาตมาขับรถที่น่าเบื่อที่สุดคือรถมอเตอร์ไซค์ ถึงขนาดอาตมาต้องจอดรถแล้วลงไปกางแขนวัดดูว่าต้องห่างเท่าไรถึงจะพ้น พออาตมาแซงมอเตอร์ไซค์ทีไรคนอื่นหัวใจจะวาย เพราะคิดว่าเบียดโดนทุกที แต่อาตมาเคยกะระยะไว้แล้ว จึงมั่นใจว่าพ้น

ฉะนั้น...ถึงเวลาก็ขับพรวดไปเลยโดยที่ไม่ได้ใส่ใจ เนื่องจากว่าเคยลงไปยืนวัดด้วยตัวเอง กางแขนว่าแล้วว่าถ้าแค่นี้พ้นแน่ แต่ในมุมนั้นถึงเวลาแล้วจะเป็นมุมบัง คนขับจะมองไม่เห็น ช่วงไปถึงจะมองไม่เห็น ก่อนถึงหรือว่าเลยไปแล้ว ถึงมองเห็นก็ไม่มีประโยชน์"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-05-2016 เมื่อ 17:04
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 74 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา