"ปัจจุบันที่ให้ทุนการศึกษา จะมีอยู่ทุนหนึ่งที่พวกชาวบ้านอยากได้มากเป็นพิเศษ ก็คือทุนปริญญาตรีต่อเนื่อง ซึ่งทางวัดจะให้ปีละ ๓๐,๐๐๐ บาท จนกว่าจะจบ ๔ ปี หรือ ๕ ปีตามหลักสูตรที่เขาเข้าเรียน หลายคนไม่ฟังเสียงหรอก มาถึงก็จะเอาทุนนี้ บอกเขาว่าต้องเป็นโรงเรียนที่ทางวัดไปให้เขาจัดการสอบให้ ในเมื่อคัดนักเรียนสอบแล้ว เด็กที่สอบได้ถึงจะให้ทุนนั้น
บางรายที่เป็นเพื่อนลูกหลานมาบอกว่า “ถึงสอบก็จะสอบ” แล้วจะสอบได้อย่างไร ลูกแกไม่ได้อยู่โรงเรียนนั้น คือเขาจะเอาให้ได้ เป็นอะไรที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกจริง ๆ พอเห็นลูกคนอื่นได้บางทีก็โวยวาย “ทีบ้านโน้นทำไมได้ แล้วเด็กบ้านนี้อยู่ใกล้วัดแท้ ๆ ทำไมไม่ได้” ขืนไปฟังมากก็ประสาทกิน
ต้องถือคติโบราณ คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ หนังก็แค่หุ้มตัวเรา ส่วนเสื่อนี่หุ้มตัวเราทั้งหนังได้อีกทีหนึ่ง ก็แปลว่า คนรักเท่าผืนหนัง คือคนรักมีน้อยกว่า คนชังเท่าผืนเสื่อ คนไม่ชอบหน้ามีมากกว่า เป็นปกติอยู่แล้ว ไม่ต้องไปใส่ใจอะไรมากมาย ตามหลักการปกครองเขาว่า "เราไม่สามารถทำให้คนทุกคนพอใจได้ แต่เราต้องทำให้คนส่วนใหญ่พอใจได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 19-11-2014 เมื่อ 13:10
|