๑๑. กฎของกรรมนั้นเที่ยงเสมอ ถึงที่ตายก็ตาย ไม่ถึงที่ตายก็ไม่ตาย เมื่อรู้แล้วก็จงมองทุกอย่างให้เป็นธรรมดาเสียให้หมด จิตก็จักได้ปล่อยวางร่างกายลงไป อย่าทิ้งการพิจารณาร่างกายและความตาย เพื่อมุ่งตัดอุปาทานขันธ์ ๕ อันจักเป็นหนทางนำจิตเข้าสู่พระนิพพานได้
จุดนี้อย่าคิดว่าใครจักช่วยเราได้ ทุกคนจักต้องช่วยตัวเองในวินาทีสุดท้ายทั้งนั้น ยกเว้นพระอรหันต์ ท่านยังมีชีวิตอยู่ได้เมื่อตัดกิเลสได้หมดในความเป็นพระ (สมณวิสัย) ท่านอยู่เพื่อประโยชน์ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ท่านรู้อยู่ขันธ์ ๕ นี้ไม่มีในท่าน อุปทานขันธ์ ๕ ท่านปล่อยวางไปสิ้นแล้ว
สำหรับพวกเจ้าหากเวทนารบกวนหนัก ก็พึงพิจารณาและภาวนาให้มาก มุ่งกำหนดรู้ในเวทนานั้นว่าไม่ใช่เรา ภาวนาไปไม่ไหวก็ให้พิจารณา พิจารณาไปไม่ไหวก็ให้ภาวนา สลับกันไปสลับกันมา จิตทรงตัวได้บ้างไม่ได้บ้างก็ให้ถือว่าเป็นของธรรมดา ให้พยายามเอาสติ - สัมปชัญญะกำหนดรู้เข้าไว้ ค่อย ๆ ทำไปแล้วจักถึงคำว่าต่อเนื่องขึ้นมาในจิตได้เอง ถ้าไม่ขี้เกียจเสียก่อน จุดนี้เป็นอุปสรรคใหญ่ที่จักต้องต่อสู้กับอารมณ์ของจิต จักต้องพยายามแก้ไขให้ได้ มิฉะนั้นปฏิบัติธรรมไปก็จักไม่มีผล
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-01-2017 เมื่อ 17:26
|