ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 29-03-2022, 20:17
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,625
ได้ให้อนุโมทนา: 151,854
ได้รับอนุโมทนา 4,413,566 ครั้ง ใน 34,215 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

การปฏิบัติธรรมเหมือนกับการว่ายทวนน้ำ เพราะว่าเป็นการทวนกระแสโลก โลกเขานิยมการไหลลงต่ำ เราต้องพยายามตะกายขึ้นสูง ซึ่งเป็นเรื่องที่เหนื่อยยาก และผิดทิศผิดทางกับคนอื่นเขา คนเขาจะว่าเราบ้า..! ดังนั้น...ถ้าเราสะสมกำลังของเราไม่พอ นอกจากสู้กิเลสไม่ได้แล้ว เรายังสู้ปากคนอื่นไม่ได้ด้วย ถึงเวลาโดนเขาว่ามาก ๆ เข้าก็ท้อใจ เลิกการปฏิบัติไปเลย

เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายปฏิบัติไปแล้ว เพียรพยายามประคับประคอง รักษาอารมณ์นั้นเอาไว้กับเรา อย่าให้หลุดหายไปไหนได้

ถ้าหากว่าท่านใดฟังเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรม จะเห็นท่านอาจารย์พระมหาไพโรจน์ กนโก นำสวดมนต์แปลอยู่เกือบทุกวัน ครูบาอาจารย์ที่ถึงวาระจะต้องมารับหน้าที่ อย่างเช่นท่านพระครูภาวนาสารบัณฑิต เป็นต้น พอถึงเวลาก็มาแสดงธรรม

ประโยคหนึ่งที่ท่านทั้งหลายจะได้ยินเป็นปกติ ก็คือ ต้องจดจ่อ ต่อเนื่อง ตามกันทุกลมหายใจเข้าออก เป็นประโยคที่สำคัญที่สุดสำหรับการปฏิบัติธรรมในระดับของพวกเรา แต่ถ้าเรายังไม่เห็นคุณค่าของตรงนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดประโยคนี้จะผ่านหูไปเฉย ๆ ฟังเป็นร้อย ๆ ครั้งก็ผ่านไปเฉย ๆ

เนื่องเพราะว่าเราว่ายทวนน้ำ เราทวนกระแสโลก ถ้าไม่ว่ายเอาไว้ตลอดเวลาก็จะไหลตามกระแสไป เมื่อถึงเวลาเราตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรมใหม่ ก็คือตั้งหน้าตั้งตาว่ายขึ้นมาใหม่ แล้วพอเลิกปฏิบัติธรรม เราก็ปล่อยไหลตามน้ำไปอีก พอรุ่งขึ้นก็ตั้งหน้าตั้งตาปฏิบัติธรรมใหม่ แล้วก็ปล่อยไหลไปอีกตามเคย

เราจะกลายเป็นคนขยัน ทำงานทุกวัน แต่ผลงานไม่มี เพราะว่าเราปล่อยให้ผลงานของเราไหลตามกระแสโลกไปหมด นั่งสมาธิพยายาม "เพียรหนอ..เพียรหนอ" "อดทนหนอ..อดทนหนอ" ครึ่งชั่วโมงบ้าง หนึ่งชั่วโมงบ้าง แต่พอเลิกแล้ว เราก็ไปก้มหน้าก้มตาจิ้มไลน์ เปิดเฟซฯ ดูไปสัก ๒ - ๓ ชั่วโมง จะคุ้มกับสิ่งที่เราทำไหม ? เราทำมา ๑ ชั่วโมง แล้วไปใช้ ๒ ชั่วโมง ก็ย่อมขาดทุนอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น...การที่ท่านทั้งหลาย ไม่ว่าจะส่งอารมณ์ สอบอารมณ์อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือการรักษาอารมณ์เอาไว้ เพื่อที่ให้เรามีกำลังเพียงพอที่จะสู้กับกิเลส ไม่ใช่ปฏิบัติธรรมมานานเท่าไรก็ไม่มีผลดีเกิดขึ้น เพราะว่าเราปล่อยให้รั่วไหลไปหมด แล้วก็เก็บเอาไว้แต่กิเลส ในลักษณะของ "การเก็บกด" ก็คือทำให้ตัวเองกด รัก โลก โกรธ หลง เอาไว้ แต่ไม่มีกำลังพอที่จะประหัตประหารหรือขับไล่ออกไปจากใจของเราได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 30-03-2022 เมื่อ 18:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 15 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา