พระอาจารย์กล่าวถึงเรื่องเทคนิคการสอนว่า "ต้นตำรับเทคนิคการสอนคือพระพุทธเจ้า พระองค์ท่านมีอุปกรณ์การสอนเยอะแยะ
ยกตัวอย่างกรณีพระนางเขมาเถรี พระนางเขมาเถรีเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ๆ พระนางเป็นมเหสีของพระเจ้าพิมพิสาร ไม่กล้าไปหาพระพุทธเจ้า เพราะได้ยินว่าพระพุทธเจ้าตำหนิเรื่องความงาม แต่ความจริงท่านเข้าใจผิด คนฟังไม่ได้ศัพท์แล้วจับเอาไปกระเดียด
พระเจ้าพิมพิสารก็เลยให้บรรดาข้าราชบริพาร บรรดานักขับร้องต่าง ๆ แต่งเพลงพรรณนาว่าเวฬุวันมีความงามอย่างไร พระนางได้ยินจึงอยากเสด็จไป คิดว่าในเมื่อเราไม่เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า แอบย่อง ๆ ไปดูก็พอ
พอพระนางไปถึง เห็นผู้หญิงที่นั่งพัดอยู่ข้าง ๆ พระพุทธเจ้า สวยงามมาก สวยกว่าตนเองอีก มนุษย์หัวแถวจะสู้นางฟ้าหัวแถวได้ไหมเล่า ? พอพระนางเขมาเถรีเห็นดังนั้น จึงคิดว่า ใครบอกว่าพระพุทธเจ้าตำหนิความงาม ผู้หญิงสวยขนาดนี้ยังอยู่เลย พระนางก็เลยอยู่บ้าง ตั้งใจฟังเทศน์
พระพุทธเจ้าเทศน์เรื่องของร่างกาย เกิดขึ้นในเบื้องต้น เปลี่ยนแปลงไปในท่ามกลาง สลายไปในที่สุด ผู้หญิงที่เห็นสวย ๆ ก็ค่อย ๆ แก่ขึ้น หลังโก่ง ผมหงอก หนังเหี่ยว ล้มลงและก็ตายตรงนั้นเลย ตายแล้วก็ขึ้นอืด น้ำเหลืองไหลโซมเลย พระนางก็เลยสลดใจ คนสวยขนาดนั้นยังเป็นได้ขนาดนี้ แล้วเราจะเหลือหรือ ท่านก็เลยกลายเป็นพระโสดาบัน
ดังนั้น..ถ้าจะเอาเรื่องอุปกรณ์การสอน พระพุทธเจ้าท่านมีเพียบ อย่างสมัยนี้ต้องเสียเวลาไปทำพาวเวอร์พอยท์ แต่พระพุทธเจ้าทั้งภาพทั้งเสียงมีครบ"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 12-08-2015 เมื่อ 11:07
|