ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 30-05-2018, 09:18
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,451
ได้ให้อนุโมทนา: 151,086
ได้รับอนุโมทนา 4,399,984 ครั้ง ใน 34,040 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

โดยเฉพาะอัตภาพร่างกายของเราเอง ที่พยายามชักนำให้เราไหลตามกิเลสไป เราต้องรักษากำลังใจให้อยู่ในลักษณะที่ว่า อย่าไปให้ความร่วมมือ กิเลสทุกอย่างเกิดขึ้นจากการปรุงแต่งหรือความคิดของเรา ถ้าหยุดคิดทุกอย่างจบเลย แต่ส่วนใหญ่แล้วเราหยุดคิดไม่ได้ เห็นสาวเดินผ่านหน้าไปก็คิดว่า “สวย ไม่สวย” พอเริ่มคิดนี่แทนที่จะสวยก็กลายเป็นซวยเลยนะครับ กิเลสตีเราทันทีเลย

เริ่มคิดว่าสวย...ชอบใจก็เป็นราคะ ไม่สวย...ไม่ชอบใจก็เป็นโทสะ โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง “เป็นแฟนเราดีหรือเปล่า ?” “ยายนี่หน้าไม่ได้เรื่องเลย แต่หุ่นดี๊ดี” “ยายนั่นหน้าตาประกวดนางสาวไทยได้เลย แต่ดันเป็นคนทันสมัยใช้ทีวีจอแบน” เราเองเที่ยวไปฟุ้งซ่านแบบนั้น ราคะก็เกิดได้ง่าย

ทำอย่างไรที่เราจะสักแต่ว่าเห็น ก็ต้องมีการสำรวมอินทรีย์ คือการสำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ถ้าเปรียบเทียบในอรรถกถามหาสติปัฏฐานสูตร หลวงปู่รูปหนึ่งท่านอยู่ปฏิบัติธรรมคนเดียวในถ้ำ สงสัยอยู่อย่างเดียวว่า "ทำไมถ้ำนี้มีคนมากันจัง ?" แต่ท่านอยู่ก้นถ้ำก็ไม่ได้สนใจ ท่านก็ภาวนาของท่านไปเรื่อย จนกระทั่งมีคนเจอท่านอยู่ท้ายถ้ำ ก็เลยถามว่า “หลวงปู่ รู้หรือเปล่าว่าถ้ำนี้จิตรกรรมฝาผนังสวยมาก ๆ เลย ?” ท่านก็ “หรือ ?” ไม่เคยเงยหน้าขึ้นดูเลย สำรวมสายตาอย่างเดียว ขนาดตัวเองอยู่ก้นถ้ำยังไม่เคยเงยสายตาขึ้นดูเลยว่ามีจิตรกรรมฝาผนังสวย ๆ จนคนเขาแห่มาดูกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 30-05-2018 เมื่อ 11:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 72 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา