ดูแบบคำตอบเดียว
  #57  
เก่า 14-09-2009, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,235 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : หลวงพ่อคะ หลวงพ่อฝึกกสิณกองแรกนานไหมคะ
ตอบ : อันแรกนาน แต่ว่าอันอื่นง่ายแล้ว ก็บอกแล้วว่ามันไม่มีเวลาไปคิดอย่างอื่นเลย มันต้องคอยประคองตลอด ไม่เช่นนั้นเดี๋ยวหาย

ถาม : เวลาจับภาพ เมื่อภาพกสิณเปลี่ยนเป็นนิมิตสีขาวแล้ว แต่ทีนี้มันหายไป แต่เราก็จำภาพที่เป็นสีขาวได้ ทีนี้เราต้องกลับไปย้อนใหม่ไหมคะ
ตอบ : แค่นึกใหม่ ไม่ต้องเริ่ม

ถาม : แล้วสังโยชน์ ๑๐ อย่างคนที่ต้องละตัวอรูปราคะ พวกสายอื่นที่เขาไม่ได้ฝึกอรูปฌานอย่างนี้แล้วเขาจะละอย่างไรคะ
ตอบ : ละในส่วนที่ไม่ใช่รูป อย่างเช่นพวกกลิ่น เสียง รส

ถาม : บางครั้งหนูมาไล่ดูว่า เป็นไปได้ไหมว่าฟุ้งซ่านแล้วไม่เป็นไปในทางกิเลส สรุปว่ามันเป็นไปไม่ได้ค่ะหลวงพ่อ
ตอบ : มันก็คิดอยากเป็นนั่น อยากเป็นนี่ อยากดีอย่างนั้น อยากดีอย่างนี้

ถาม : ถึงแม้มันจะเป็นไปในด้านกุศล
ตอบ : กุศลมันก็ฟุ้ง เพราะใจมันไม่รวม เมื่อใจมันไม่รวม พอกำลังมันหมด ทีนี้กิเลสมันตีตายเลย

ถาม : แต่ว่าห้ามไม่ให้ฟุ้งซ่านนี่มันยากนะคะหลวงพ่อ หนูเคยลองนั่งรถเมล์มาถึงอนุสาวรีย์ อยากจะดูว่ามันจะคุมได้นานสักเท่าไหร่ ปรากฏว่าได้ไม่นานค่ะหลวงพ่อ
ตอบ : แค่ ๒ นาทีก็ถือว่าเก่ง อะไรที่แว่บเข้ามาทางตาก็มองส่องไป (หัวเราะ ) ไม่ยาก ขอยืนยัน

ถาม : อย่างบางครั้งเราพิจารณาในร่างกาย แค่เราพิจารณานิดเดียว มันก็ได้กรรมฐานหลายกองไปในเวลาเดียวกัน อย่างเช่นตัวอสุภะ มันได้ทั้งธาตุ ๔ และตัวกายคตา
ตอบ : มันทำได้ ของมันเนื่องกันอยู่แล้ว ถ้าเคยคลำ ๆ มาบ้าง ถึงเวลามันก็ไปลงที่เดียวกัน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 14-09-2009 เมื่อ 11:41
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 104 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา