ดูแบบคำตอบเดียว
  #18  
เก่า 06-06-2019, 20:42
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,328
ได้ให้อนุโมทนา: 149,906
ได้รับอนุโมทนา 4,395,364 ครั้ง ใน 33,917 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : ถ้ามีนักบวชทำอาบัติร้ายแรงอย่างปาราชิก หรือสังฆาทิเสส แต่ไม่มีใครสามารถพิสูจน์หรือมีหลักฐานว่านักบวชองค์นั้นผิด อยากทราบว่า ในด้านการปกครองสงฆ์ ท่านทำอย่างไรครับ ?
ตอบ : ถ้าพิสูจน์ไม่ได้ก็ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไป แต่ในเรื่องของทางธรรม ทันทีที่ทำโทษก็เกิดแล้ว

ในส่วนนี้ต้องชื่นชมพระสมัยโบราณ โดยเฉพาะในสมัยพุทธกาล เราก็รู้ว่าแขกแต่ละคนกะล่อนขนาดไหน ถึงขนาดมีภาษิตว่า ถ้าเจองูกับแขก ให้ตีแขกก่อน แต่เมื่อท่านทั้งหลายเหล่านี้เป็นนักบวชแล้ว มีความตรงไปตรงมามาก ถึงเวลาทำผิด พระพุทธเจ้าตรัสถามว่า "ดูก่อน..โมฆบุรุษ เธอทำอย่างนั้นจริงหรือ ?" "จริงพระเจ้าข้า" ยอมรับตรง ๆ

แต่สมัยนี้ต่อให้ทำผิดก็ไปรอศาลพิสูจน์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับศาลเลย เรื่องการทำผิดตัดสินกันด้วยพระธรรมวินัย ไม่ใช่ตัดสินด้วยศาลทางโลก ก็แปลว่าการผิดพระวินัย โทษเกิดขึ้นในทันทีที่ทำแล้ว ถ้าขาดความเป็นพระก็ขาดไปแล้ว คุณจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ ศาลจะพิสูจน์หรือไม่พิสูจน์ โทษนั้นก็เกิดขึ้นแล้ว

ฉะนั้น...หากยังหน้าด้านหน้าทนอยู่ในผ้าเหลืองต่อไป ก็จะเกิดวิปฏิสารคือความเดือดเนื้อร้อนใจ เนื่องจากตัวเองรู้อยู่เสมอว่าศีลไม่เท่ากับเพื่อนพระ ไปกินไปนอนร่วมกันก็เกิดโทษมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพราะว่าไปทำให้ผู้อื่นต้องอาบัติและสังฆกรรมเสียหาย ก็แปลว่าหาโทษหนักใส่ตัวเพิ่มขึ้นไปเรื่อย ๆ โอกาสที่จะรอดอเวจีกลายเป็นศูนย์ไปเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-06-2019 เมื่อ 04:23
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 169 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา