"นอกจากจะมีความสามารถได้รับการคัดเลือกตัวเข้าไปแล้ว ยังมีผลงานที่โดดเด่นอีกต่างหาก ก็คือ พราหมณ์ ๑๐๗ คน ทำนายมหาปุริสลักษณะของเจ้าชายสิทธัตถะออกเป็นสองทางว่า ถ้าออกบวชจะเป็นศาสดาเอกของโลก ถ้าอยู่ครองราชย์จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชปกครองโลก แต่โกณฑัญญะพราหมณ์ที่หนุ่มที่สุด อาวุโสน้อยที่สุด ฟันธงว่าต้องบวชและเป็นศาสดาเอกของโลกเท่านั้น..!
ดังนั้น..พอมีข่าวว่าเจ้าชายสิทธัตถะออกมหาภิเนษกรมณ์ โกณฑัญญะพราหมณ์จึงชักชวนลูกหลานของบรรดาพราหมณ์ที่ไปทำนายลักษณะออกบวชตามด้วย ได้มา ๔ ท่าน ก็คือ ท่านวัปปะ ท่านภัททิยะ ท่านมหานามะ และท่านอัสสชิ
ทั้งห้าท่านอยู่ปรนนิบัติรับใช้เจ้าชายสิทธัตถะ ด้วยหวังว่า ถ้าเจ้าชายบรรลุสัมมาสัมโพธิญาณเมื่อไร โอกาสก็เป็นของเรา ปรากฏว่าพระพุทธเจ้าบรรลุมรรคผลตอนอายุ ๓๕ ปี
เราลองเอา ๓๕ + ๑๖ แสดงว่า อย่างน้อยท่านอัญญาโกณฑัญญะก็อายุ ๕๐ เศษ ๆ แล้วตอนนั้น ส่วนพราหมณ์อีก ๑๐๗ คน ตายหมดไม่มีใครเหลือ เหลือท่านโกณฑัญญะพราหมณ์คนเดียว และได้ลูกหลานของคณะที่ทำนายมาอีก ๔ รวมเป็นคณะ ๕ เรียกว่าปัญจวัคคีย์
ด้วยความที่ท่านสั่งสมความรู้ และเวลาบรรลุมรรคผลก็บรรลุก่อนใคร ถือว่าเป็นพี่ใหญ่สุดในพระพุทธศาสนา เป็นพระสงฆ์องค์แรกของโลก พระพุทธเจ้าจึงตั้งให้ท่านเป็นเอตทัคคะทางรัตตัญญู
รัตตัญญู แปลตามศัพท์ว่า รู้ราตรีนาน แปลความหมายเป็นไทย ก็คือ อยู่นานมีประสบการณ์มาก
พระพุทธเจ้าใช้ชีวิตในเพศฆราวาส ๒๙ ปี ใช้ชีวิตในเพศนักบวชเพื่อแสวงธรรมอีก ๖ ปี บรรลุมรรคผลแล้วทรงความเป็นสัมมาสัมพุทธเจ้าอีก ๔๕ ปี
อีกสองปีข้างหน้าจะครบ ๒,๖๐๐ ปี การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า อาตมาจะหาโอกาสสร้างวัตถุมงคลเป็นที่ระลึกงานนี้สักชุดหนึ่ง"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-02-2019 เมื่อ 02:10
|