แต่ก็ยังมีการยั่ว การแหย่ ในลักษณะที่ให้เราเป็นคนยุยงให้ผู้อื่นละเมิดศีล ถ้าเราสามารถระมัดระวังเอาไว้ได้ ก็จะมีการยินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีลอีก ดังนั้น...ในเรื่องของศีลจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องรักษาให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ ในลักษณะของการทุ่มเทชีวิตลงไปเพื่อแลกกัน
ส่วนข้อสุดท้ายคือ ต้องรู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะต้องตาย ถ้าหากว่าตายลงไปเมื่อไร เราขอมีพระนิพพานเป็นที่ไปเพียงที่เดียวเท่านั้น ถ้าใครสามารถรักษากฎเกณฑ์กติกาเหล่านี้ไว้ได้โดยไม่มีความหนักใจ ก็เท่ากับว่าก้าวเข้าสู่เกณฑ์ของความเป็นพระโสดาบัน ถ้ากำลังใจหนักแน่นมั่นคง เราก็จะปิดอบายภูมิได้จริง ๆ
สำหรับท่านที่ตั้งใจปฏิบัติเพื่อความเป็นพระโสดาบันแล้ว ในระหว่างที่เรากระทำอยู่ ก็ยังมีสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ที่จะให้เราละเมิดศีลอยู่เสมอ เราจึงจำเป็นต้องสร้างสมาธิของเราให้หนักแน่น ให้เข้มข้น ให้เข้มแข็ง เพื่อที่จะได้มีกำลัง ในการระงับยับยั้งตนเองไม่ให้ไปละเมิดศีลได้
ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันอาทิตย์ที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๐
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย รัตนาวุธ)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-09-2017 เมื่อ 15:55
|