ชื่อกระทู้: มหาเวสสันดรชาดก
ดูแบบคำตอบเดียว
  #12  
เก่า 18-09-2009, 19:39
สายท่าขนุน สายท่าขนุน is offline
สมาชิก VIP - ผู้ได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษ
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 759
ได้ให้อนุโมทนา: 160,001
ได้รับอนุโมทนา 133,090 ครั้ง ใน 5,305 โพสต์
สายท่าขนุน is on a distinguished road
Wink

เว็บวัดมงคลรัตนาราม (เมืองเบิร์กเลย์ สหรัฐอเมริกา)
ได้ลงบทเทศน์มหาชาติ กัณฑ์มัทรีนี้ไว้เป็นเนื้อร้องทำนองหลวง ดังตัวอย่าง

...ยํ ปน รญฺญา มหาปฐวึ อุนฺนาเทตฺวา พฺราหฺมณสฺส ปิยปุตฺเตสุ ทินฺเนสุ ยาว พฺรหฺมโลกา เอกโกลาหลํ ชาตํ เตนาปิ ภิชฺชิตหทยา วิย หิมวนฺตวาสิโน เทวตาโย เตสํ พฺราหฺมเณน นิยมานานํ ตํ วิลาปํ สุตฺวา มนฺตยึสุ สเจ มทฺที สกาลสฺเสว อสฺสมํ อาคมิสฺสติ สา ตตฺถ ปุตฺเต อทิสฺวา เวสสนฺตรํ ปุจฺฉิตฺวา พฺราหฺมณสฺส ทินฺนภาวํ สุตวา พลวสิเน เหน ปทานุปทํ ธาวิตฺวา มหนฺตํ ทุกฺขํ อนุภเวยฺยาติ ฯ
(เดิน) ยัง โกลาหะลัง อันว่าโกลาหลอันใด เป็นวิสัยแสนกัมปนาท รญฺญา เมว เวสฺสนฺตเรน อันพระมหาบุรุษราชชาติ อาชาไนย เชื้อชินวงศ์ ทรงบำเพ็ญ เพิ่มโพธิสมภาร ด้วยเดชะอำนาจทานโพธิสัตว์ เป็นปัจฉิมะปะระมัตถะบารมีอันหมายมั่น ตัง โกลาหะลัง ก็บังเกิดมหัศจรรย์ ในไตรภพ จบพรหมเมศร ทินฺเนสุ ปางเมื่อท้าวเธอยกสองดรุณเรศผู้ยอดรัก ราวกับว่าจะแขวะควักซึ่งดวงเนตรทั้งสองข้างวางไว้ในมือพราหมณ์ เฒ่าก็พาสองพะงางามไป ในทางกันดาร ควรจะสงสารแสนอนาถา ด้วยพระลูกเจ้าเป็นกำพร้าพรากพระชนนีแต่น้อย ๆ ยังมิวายนม พราหมณ์ขู่ข่มเข่นเขี้ยวคำรามตีต้อนให้ด่วนเดิน ตามป่ารกระหกระเหินหอบหิวและให้โหย มีแต่เสียงเธอโอดโอยสะอื้นร้องรำพันสั่งทุกเส้นหญ้า ก็หวั่น ๆ วังเวงวิเวกป่าพระหิมพานต์ เตสัง ลาละปิตัง สุตฺตวา ฝูงเทพยดาทุกพิมานไม้ไศลเกริ่น เนินแนวพนาวาส ได้สดับคำประกาศสองกุมารทรงสั่งสาสน์จนสุดเสียง ดังทิพยพิมานจะเอนเอียงอ่อนลงช้อยชด เทพยเจ้าก็เศร้าสลดพิลาปเหลียวมาดูมิได้ ภิชฺชิตหะทะยา วิยะ ปิ่มประหนึ่งว่าดวงหฤทัยจะประทุลั่นละเอียดออกทุกอกองค์ ด้วยทรงพระอาลัยนั้นใหญ่หลวง ก็พากันข้อนทรวงทรงกันแสงโศกอยู่ซบเซา จึงปรารถว่าชาวเราเอ่ย จะคิดไฉนดี ถ้าแม้นสมเด็จพระมัทรีเธอกลับเข้ามา แต่กาลยังวันมิทันเย็น อะทิสวา เมื่อนางเธอมิได้เห็นพระเจ้าลูกก็จะทูลถาม ครั้นแจ้งว่าพราหมณ์มันพาไป นางก็จะอาลัยโลดแล่นไปตามติดไม่คิดตาย มหันตัง ทุกขัง คิดไปแล้วใจหายเห็นหน้าน้ำตาตก โอ้อกมัทรีเอ่ย จะเสวยพระทุกข์แทบชีวิตจะปลิดปลง ด้วยพระลูกรักทั้งสององค์นี้แล้วแลฯ
ตมตฺถํ ปกาเสนฺโต สตฺถา อาห ฯ
เตสํ ลาลปิตํ สุตฺวา ฯลฯ ปพฺพาเชนฺติ อทูสกนฺติ ฯ


ขออภัยที่นำมาแทรก แต่เห็นว่าไพเราะดี อีกสักท่อนนะ

(ขึ้น) แก้วกัณหาพ่อชาลี แม่มาถึงแล้ว เหตุไฉนใยพระลูกแล้วจึงมิมาเล่าหลากแก่ใจ แต่ก่อนแต่ไรสิพร้อมเพรียง เจ้าเคยวิ่งระรี่เรียงเคียงแข่งกันมารับพระมารดา ทรงพระสรวลสำรวลร่าระรื่นเร่งรีบรับเอาขอคาน แล้วก็พากันกราบกรานพระชนนี พ่อชาลีเจ้าเลือกเอาผลไม้ แม่กัณหาชะอ้อนวอนไหว้ว่าจะเสวยนม ผทมเหนือพระเพลาพลางเสมือนหนึ่งลูกทรายทรามคะนอง ปองที่ว่าจะชมแม่เมื่อสายัณห์ โอ้..พระจอมขวัญของแม่เอ๋ย เจ้ามิเคยได้ความยากย่างเท้าลงเหยียบดิน ริ้นก็มิได้ไต่ ไรก็มิได้ตอม เจ้าเคยฟังแต่เสียงพี่เลี้ยงเขาขับกล่อมบำเรอรับดนตรี ยามบรรทมลมธุลีก็มิได้พัดมาแผ้วพาน แม่สู้รักษาพยาบาลบำรุงเจ้าแต่เยาว์มา เจ้าไม่เคยห่างพระมารดาสักราตรี โอ้ความเข็ญใจในครั้งนี้ นี่เหลือขนาด สิ้นสมบัติพลัดญาติยังแต่ตัว ต้องไปหามาเลี้ยงลูกแลผัวค่ำเช้าทุกเวลา แม่มาสละเจ้าไว้เป็นกำพร้าทั้งสององค์ หังสาวะ เสมือนหนึ่งลูกหงส์เหมราช ปักษิณปราศจากมุจลินท์ ไปตกคลุกในโคลนหนองสิ้นสีทองอันผ่องแผ้วแต่ก่อนแม่กลับมาถึงแล้ได้ชมเชยชื่นจิตสบาย ที่เหนื่อยยากก็จะเสื่อมหายคลายทุกข์ทุเลาลง ลืมสมบัติขัตติยวงศ์ในวังเวียง โอ้..แต่ก่อนเอ๋ย แม่เคยได้ยินเสียงเจ้าเจรจาแจ้ว ๆ อยู่ตรงนี้ อิทัง ปาทวลญฺชังนั่นก็รอยเท้าชาลี นี่ก็รอยเท้าของกัณหาแม่ยังแลเห็น โน่นก็กรวดทรายเจ้ารายเล่นเป็นกอง ๆ สิ่งของทั้งนี้เป็นเครื่องเล่นยังเห็นอยู่ น ทิสฺสเร แต่ลูกรักของแม่ทั้งคู่ไปอยู่ไหนไม่เห็นเลย อยัง โส อสฺสโม โอ้..พระอาศรมเจ้าเอ่ย ก็น่าอัศจรรย์ใจ แต่ก่อนดูนี่สุกใสด้วยสีทอง เสียงนกก็ร่ำร้องสำราญรังเรียงเคียงคู่แล้วดูขัน ทั้งจักกระจั่นพรรณลองใน เรไรร้องอยู่หริ่ง ๆ ระเรื่อยโรย โหยสำเนียงดังเสียงสังคีตขับประโคมไพร โอ้..เหตุไฉนจึงเหงาเงียบเมื่อยามนี่ ทั้งอาศรมก็หมองศรีเหมือนหนึ่งว่าจะเศร้าโศก เออ..ชะรอยว่าพระลูกเจ้าจะวิโยคพลัดพราก จากอกของมารดาเสียจริงแล้วกระมังในครั้งนี้ นางก็เข้าไปทูลถามพระราชสามีด้วยสงสัย ว่าพระพุทธเจ้าข้า ประหลาดใจกระหม่อมฉันอันสองกุมารนั้นไปอยู่ไหนไม่แจ้งเหตุ ฤๅพากันไปเที่ยวลับพระเนตรนอกตำแหน่ง สิ่งสัตว์ที่ร้ายแรงคะนองฤทธิ์ มาพานพบขบกัดตัดชีวิตพระลูกข้า พาไปกินเป็นอาหาร ถึงกระนั้นก็จะพบพานซึ่ง กะเฬวะ ร่างมิเลือดก็เนื้อ จะเหลืออยู่บ้างสักสิ่งอัน แต่พอได้รู้ว่าสำคัญว่าเป็นตาย นี่สุดที่จะมุ่งหมายพ้นประมาณแล้ว โอ้..เจ้าแว่นแก้วส่องสว่างอกของแม่เอ๋ย แม่เคยได้รับขวัญทุกเวลา เป็นไรเล่าเจ้าจึงไม่มาเหมือนทุกวัน มตา ฤๅว่าพระลูกเจ้าอาสัญสูญสิ้นพระชนมาน อยู่ในป่าพระหิมพานต์นี้แล้วแล ฯ
อิโต ตโต ทุกฺขตรํ ฯลฯ ชาลี กณฺหาชินญฺจุโภติ ฯ


หากสนใจ ไปอ่านได้ที่
http://www.watmongkolberkeley.com/watberkeley66.html
__________________
การรักษากำลังใจสำคัญที่สุด...ได้ดีอย่าฟู แล้วขณะเดียวกันว่า ถ้าได้ร้ายก็อย่าฟุบ ให้เห็นว่ามันเป็นปกติของมัน เรื่องของมัน
ถ้ามันดีมาพออาศัยได้ก็ดีกับมันไป ถ้าหากว่ามันไม่ดีมา เราอยู่กับมันก็ให้รู้อยู่มีสติอยู่ ถึงเวลาก็ต่างคนต่างไปอยู่แล้ว...
กำลังใจของเราพลาดแม้แค่วินาทีเดียวนี่ อาจจะหมายถึงแพ้ทั้งกระดาน

อะไรมันก็ไม่เจ็บปวดเท่ากับต้องเกิดใหม่ มันเป็นทุกข์ เป็นโทษสุด ๆ จริง ๆ
กระโถนข้างธรรมาสน์ ฉบับที่ ๕๑

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สายท่าขนุน : 23-09-2009 เมื่อ 19:49
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ สายท่าขนุน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา