ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 27-11-2017, 15:30
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,645 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ในเมื่อเห็นชัดแล้วว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้บังคับบัญชาไม่ได้ สั่งการไม่ได้ ทะนุถนอมเท่าไรก็ก้าวไปหาความเสื่อมอยู่เสมอ ก็แปลว่าไม่มีอะไรที่เป็นเราเป็นของเรา เพราะถ้าเป็นของเราต้องสั่งได้ ต้องบังคับบัญชาได้ เป็นต้น

เมื่อเราเห็นชัดเจนแล้ว ว่าสภาพร่างกายนี้ทั้งภายนอกภายใน มีความไม่เที่ยงเป็นปกติ มีความทุกข์เป็นปกติ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายเป็นตัวเราตัวเขาได้ ร่างกายของบุคคลอื่นก็เช่นกัน ร่างกายของสัตว์ต่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน แม้กระทั่งวัตถุธาตุสิ่งของทั้งหลาย ก็ตกอยู่ใต้สภาพของไตรลักษณ์ คือ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่มีอะไรยึดถือมั่นหมายได้เช่นกัน ถ้าสภาพจิตของเราเห็นสิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นปกติ ยอมรับ...ถอนออกมาจากความต้องการทั้งหลายเหล่านั้น กามราคะย่อมไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นมารบกวนพวกเราได้ เราก็สามารถที่จะชนะกิเลสกองใหญ่ ๑ ใน ๔ กองนี้ ทำให้กามราคะไม่สามารถที่จะรบกวนเราได้

แต่ว่าโดยหลัก ๆ แล้วสำหรับท่านทั้งหลาย ถ้าหากว่ากำลังปัญญาอ่อนอยู่ เราก็ต้องอาศัยอานาปานสติ อานาปานสตินั้นก็คือการดูลมหายใจเข้าออกของเรา สร้างกำลังสมาธิให้สูงที่สุดเท่าที่จะสูงได้ แล้วเอากำลังสมาธิกดกามราคะให้ดับลงชั่วคราว หลังจากนั้นแล้วค่อยมาพินิจพิจารณาในการตัดละกันต่อไป

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาและพิจารณาตามอัธยาศัย จนกว่าจะได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันศุกร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยทาริกา)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 27-11-2017 เมื่อ 19:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 18 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา