ดูแบบคำตอบเดียว
  #117  
เก่า 03-01-2011, 09:43
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,634
ได้ให้อนุโมทนา: 151,878
ได้รับอนุโมทนา 4,414,066 ครั้ง ใน 34,224 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"กรรมส่วนหนึ่งที่เป็นการหนุนเสริม บีบคั้น ตัดรอน อย่างชนกกรรม กรรมที่พาไปเกิด อุปัตถัมภกกรรม กรรมที่คอยหนุนเสริม อุปปีฬกกรรม กรรมที่คอยบีบคั้น อุปฆาตกรรม กรรมที่คอยตัดรอน

อุปฆาตกรรมก็ถือว่ามหัศจรรย์ ตรงที่มีทั้งที่ฝ่ายเป็นกุศลและอกุศล อุปฆาตกรรมกุศลเกิดขึ้น จะตัดอกุศลทิ้งหมดเกลี้ยงเลย ตัวอย่างคือพระองคุลีมาล ฆ่าคนมาเป็นพัน พออุปฆาตกรรมฝ่ายกุศลเข้ามา ตัดอกุศลความชั่วทิ้งหมด หันหน้าเข้ามาบวชกลายเป็นพระอรหันต์ไปเลย

ตัวอุปฆาตกรรมฝ่ายอกุศล ตัวอย่างก็คือพระเทวทัต บวชเข้ามาได้อภิญญาสมาบัติ พออุปฆาตกรรมฝ่ายอกุศลเข้ามา ตัดความดีหมด เห็นผิดเป็นชอบ อยากบริหารการคณะสงฆ์แทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท้ายสุดถึงขนาดลอบทำร้าย จ้างคนฆ่าและลงมือฆ่าพระพุทธเจ้าเอง ในที่สุดก็กลายเป็นทำครุกรรมฝ่ายอกุศล โดนธรณีสูบ

ครุกรรม คือ กรรมอันหนัก จะได้ผลในชาติปัจจุบัน มีทั้งฝ่ายกุศลและอกุศลเหมือนกัน ครุกรรมฝ่ายกุศลอย่างเช่น เราสามารถสร้างฌานสี่หรือสมาบัติแปดให้เกิดกับตนได้ จัดว่าเป็นกรรมที่เราทำเอง หรือเราได้ทำบุญกับพระที่ออกนิโรธสมาบัติ จัดว่าผู้อื่นทำ ส่วนเราอาศัยท่านเป็นเนื้อนาบุญ

ทั้งสองอย่างนี้จะส่งผลในชาติปัจจุบัน อย่างเช่นว่าเราสร้างรูปฌานได้คล่องตัวมาก จะเป็นครุกรรมฝ่ายกุศล ส่งผลให้ไปเกิดเป็นรูปพรหมชั้นใดชั้นหนึ่ง ตั้งแต่ชั้นที่ ๑ ถึงชั้นที่ ๑๑ ถ้าหากเราสร้างอรูปฌานได้คล่องตัวก็จะเป็นอรูปพรหมชั้นใดชั้นหนึ่ง ตั้งแต่อากาสานัญจายตนะ ไปจนถึงเนวสัญญานาสัญญายตนะอรูปพรหม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-01-2011 เมื่อ 15:33
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 147 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา