ดูแบบคำตอบเดียว
  #116  
เก่า 25-09-2012, 10:17
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,833 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

ความทุกข์ทรมานในครั้งนี้ ให้ท่านระลึกเทียบเคียงเข้ากับประวัติของพระโคธิกะ ซึ่งเป็นพระสาวกในครั้งพุทธกาลในสมัยที่เคยเรียนปริยัติ ดังนี้

“...ดังที่เคยพูดถึงเรื่องจิตเสื่อมมาเป็นปีกว่านั้น เสื่อมแล้วเจริญ ๆ หาบหามกองทุกข์ แบกกองทุกข์นี้ แหม...ไม่มีกองทุกข์ใด ที่จะมากยิ่งกว่าทุกข์ของจิตที่เจริญแล้วเสื่อม ๆ ซึ่งปรากฏกับหัวใจของเรา จนกระทั่งถึงความเข็ดหลาบเลย ถึงขั้นที่ว่า จิตพอได้หลักขึ้นมาเป็นสงบแล้วต้องเอาตายเข้าว่า


‘คราวนี้จิตจะเสื่อมไปไม่ได้ ถ้าจิตเสื่อมคราวนี้เราต้องตาย จะเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้ นั่นซิ มันอาจเป็นได้นะ’ สำหรับนิสัยเรานี้มันเด็ดขาดจริง ๆ

เราก็เทียบเอาพระโคธิกะนั่นมาเป็นตัวอย่าง ท่านฆ่าตัวตายเพราะจิตท่านเสื่อมในครั้งนั้น ท่านบอกว่าฌานเสื่อม ๆ ก็คือสมาธินั่นแหละเสื่อม ฌานก็แปลว่า ความเพ่งความเล็งอยู่จุดเดียว คือจุดแห่งความสงบนั้นมันเสื่อมไป ทีนี้ไม่มีจุดไหน ที่จะจับจะข้องจะแวะจะอาศัยพึ่งพิงได้ ที่นี้ก็มีแต่ความว้าเหว่ เสียดาย ความสุขที่เกิดขึ้นจากความสงบของฌานนั้นโดยถ่ายเดียว โดยไม่มีสิ่งตอบแทนคือสมหวังว่า เป็นความสงบตามความมุ่งหวังแล้วอย่างนี้ไม่มี นั่นละ.. กองทุกข์เกิดขึ้นเวลานั้น ท่านแสดงไว้มีถึง ๕ ครั้ง ๖ ครั้ง พอครั้งสุดท้าย ท่านก็เอามีดโกนมาเฉือนคอเลย

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2012 เมื่อ 12:53
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา