มีโยมมาถวายสังฆทานอุทิศให้แม่ โดยนำรูปแม่มาด้วย พระอาจารย์กล่าวว่า "โยมเอารูปแม่ตอนสาวพริ้งมาเลย แต่ตอนที่แม่มาโมทนานี่แก่งั่ก แม่ตายตอนอายุ ๗๑ ปี แสดงว่าตอนที่มานี่คงจะ ๗๑ ปี เล่นเอาอาตมาต้องเหลือบมองดูรูป ๒ ที ว่าใช่หรือเปล่า ส่วนใหญ่เขาจะแสดงภาพช่วงสุดท้ายให้ เพราะลูกหลานเขาจะคุ้นเคย แต่ลูกหลานดันเอาภาพอีกสมัยหนึ่งมา
เมื่อหลายปีก่อน ตอนอยู่บ้านอนุสาวรีย์ มีโยม ๒ คนเป็นเพื่อนกัน คนหนึ่งมาทำบุญให้พ่อ อีกคนหนึ่งมาทำบุญให้ผัว อาตมาก็ถามว่า "เฮ้ย...ลูกอายุเท่านี้ ทำไมพ่อแกแก่ขนาดนี้วะ ?" อีกคนร้อง "ว้าย..นั่นผัวหนูค่ะ" สรุปว่าได้ผัวแก่..แกยอมสารภาพเอง..!
โลกอื่นดีอยู่อย่างหนึ่งคือเขาไม่หลอกกัน แต่บางทีก็ทำให้เราเข้าใจผิดหลงทางได้ง่าย ๆ ถ้าถามอะไรเขาก็บอกตรง ๆ ไม่โกหก เป็นเรื่องที่น่าสลดใจว่ามีแต่โลกมนุษย์เราเท่านั้นที่โกหก
ส่วนใหญ่คนที่ตายไป ถ้าเราทำบุญแล้วนึกถึงท่าน ถ้ามาได้อยู่ในที่ไม่ลำบาก เขาก็มักจะมาโมทนา ที่ว่าไม่ลำบากอย่างแรกคือเป็นสัมภเวสี สัมภเวสียังไม่ได้เวลาไปรับความดีความชั่ว เพราะอายุความเป็นมนุษย์ยังไม่หมด ถ้าลูกหลานรู้จักทำบุญให้ก็สบาย มีความสุขคล้าย ๆ กับเทวดานางฟ้า รอเวลาหมดอายุจากมนุษย์ซึ่งก็นิดเดียวของที่นั่น สมมติว่าเหลือเวลามนุษย์อีก ๕๐ ปี ก็วันเดียวของที่นั่น แต่ถ้าอดข้าววันหนึ่งก็ลำบากนะ ถ้าลูกหลานไม่ทำบุญให้ก็ลำบาก
อีกประเภทคืออสุรกาย แต่ว่ามีอสุรกายจำพวกหนึ่งคือนิรยอสุรกาย โมทนาไม่ได้ เพราะว่าอยู่ในโลกันตนรก...
พวกที่ได้แน่ ๆ คือปรทัตตูปชีวีเปรต พวกนี้จ้องคอยโอกาสเลย เห็นญาติทำบุญเป็นวิ่งใส่ ถ้าญาติลืมอุทิศส่วนกุศล หรือไม่ทำบุญเสียที ก็ร้องไห้คร่ำครวญ บางทีก็ดังถึงหูคนทั่วไปด้วย..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-01-2013 เมื่อ 02:00
|