ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 24-07-2017, 21:39
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,500
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,666 ครั้ง ใน 34,089 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สภาพร่างกายค่อย ๆ เคลื่อนไปสู่ความแก่ ความหนาว ความร้อน ความเจ็บไข้ได้ป่วย ความสกปรกที่ต้องชำระล้างมีติดกายอยู่ตลอดเวลา ร่างกายยิ่งแก่ยิ่งทำอะไรยากขึ้น แต่ความทุกข์ยังมีเท่าเดิม ก็เท่ากับความทุกข์มีมากขึ้น

ทุกขเวทนาที่บีบคั้นเข้ามายามเจ็บไข้ได้ป่วยก็ดี ยามกระทบกระทั่งของที่ไม่รักไม่ชอบใจก็ดี ยามพลัดพรากจากของรักของชอบใจก็ดี ยามที่ปรารถนาไม่สมหวังก็ดี สิ่งทั้งหลายเหล่านี้บีบคั้นเราอยู่ตลอดเวลา ท้ายที่สุดบีบคั้นมาก ๆ ทุกขเวทนาเกิดขึ้นจนทนไม่ไหว...ก็ตาย

ตายแล้วไม่ใช่พ้นทุกข์ ถ้าหากว่าสร้างกรรมดีไว้มาก ได้เกิดเป็นนางฟ้า เทวดา ก็พ้นทุกข์เพียงชั่วคราว แต่ถ้าตกสู่อบายภูมิ จะทุกข์หนักกว่าเป็นมนุษย์หลายเท่า หมายความว่าตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นตา จนหลับตาลงไปในแต่ละวัน เรากำลังเวียนว่ายอยู่ในกองทุกข์ เป็นความทุกข์เหลือที่จะทนได้

แล้วเราจะรับมือความทุกข์ทั้งหลายอย่างไร ? ก็ต้องพิจารณาให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ความทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้เป็นสิ่งที่มีมาพร้อมกับร่างกายนี้แล้ว ขึ้นชื่อว่าการเกิดมาย่อมมีความทุกข์ทั้งหลายเหล่านี้เป็นธรรมดา ขึ้นชื่อว่าความทุกข์เช่นนี้ จะไม่มีสำหรับเราอีก การเกิดของเราชาตินี้จะเป็นชาติสุดท้าย ตายเมื่อไรเราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว

ถ้าสภาพจิตสามารถเห็นความทุกข์อย่างชัดเจน ยอมรับว่าทุกข์นี้เป็นธรรมดาของร่างกาย จิตใจไม่ไปหวั่นไหวปรุงแต่ง ประกอบด้วยการปล่อยวาง สักแต่ว่าเห็น สักแต่ว่าได้ยิน สักแต่ว่าได้กลิ่น สักแต่ว่าได้รส สักแต่ว่าสัมผัส ไม่นำมาคิดให้เกิดเป็น รัก โลภ โกรธ หลง ความทุกข์ทั้งหลายก็ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้

เมื่อสภาพจิตไม่ปรุงแต่ง ทุกข์ก็เกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าสภาพจิตเคยชินกับการไม่ปรุงแต่งไปนาน ๆ ก็ย่อมขาดจากการปรุงแต่งทั้งหลายทั้งปวงไป เมื่อการปรุงแต่งขาดหายไป รัก โลภ โกรธ หลง ต่าง ๆ ที่กลายเป็นสภาพทุกข์บีบคั้นเราอยู่ ก็ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นได้ เราก็มีสิทธิ์ที่จะหลุดพ้นเข้าสู่พระนิพพาน

ลำดับต่อไปก็ให้ทุกท่านตั้งใจภาวนาพิจารณาตามอัธยาศัย พยายามดูทุกข์ให้เห็น มองทุกข์ให้เจอ ยอมรับให้ได้ว่าธรรมดาการเกิดมาก็มีความทุกข์เช่นนี้ พินิจพิจารณาไปให้ถึง ถ้าสภาพจิตยอมรับได้ เราก็มีโอกาสที่จะพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง ให้พิจารณาเช่นนี้ไปจนกว่าได้รับสัญญาณบอกว่าหมดเวลา


พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน ณ บ้านเติมบุญ
วันเสาร์ที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐

(ถอดจากเสียงเป็นอักษรโดยคะน้า)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2017 เมื่อ 02:35
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 36 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา