ดูแบบคำตอบเดียว
  #27  
เก่า 27-11-2009, 11:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,526
ได้ให้อนุโมทนา: 151,473
ได้รับอนุโมทนา 4,406,423 ครั้ง ใน 34,116 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

สำหรับวันนี้ฝากเป็นการบ้านสำหรับพระทั้งหลายของเราไว้ ท่านใดที่ปฏิบัติจนมีหลักพิงเพียงพอแล้ว ก็ขออนุโมทนาด้วย แต่ท่านใดที่ยังหลักลอยอยู่ ขอให้รู้ว่านอกจากเรายังเอาตัวไม่รอดแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมตัวเองให้หนักยิ่งขึ้นไป ให้เร่งขวนขวายให้มากกว่านี้

สมัยผมอยู่กับหลวงพ่อ ผมไม่คิดว่าหลวงพ่อจะอยู่ได้ข้ามวัน เพราะว่าหลวงพ่อท่านป่วยหนักเหลือเกิน ผมขวนขวายดิ้นรนอยู่ตลอด เป็นฆราวาสตามหลวงพ่ออยู่ ๖ ปี ได้อะไรมาน้อยมากเพราะหนทางฆราวาสมันคับแคบ เป็นพระอยู่ ๗ พรรษาใต้ร่มบารมีหลวงพ่อ ผมกอบโกยจนกระทั่งผมรู้สึกว่าผมได้น้อย แต่มันกลายมันได้มากในสายตาของคนอื่นเขา

ขอให้ทุกท่านอย่าประมาท เร่งปฏิบัติให้มากไว้ ในความเป็นนักบวชของเรานั้น มันเสี่ยงต่ออบายภูมิเป็นอย่างยิ่ง ลงทุนมาทั้งทีอย่าให้ขาดทุน

สำหรับญาติโยมทั้งหลายก็เช่นกัน ชีวิตฆราวาสนั้นมีโอกาสง่ายกว่าพระ เรามีกฎกติกาแค่ ๕ ข้อ ในการดำรงชีวิต หนทางที่จะไปพระนิพพานของเรามีหล่ม...มีเหวอยู่แค่ ๕ ที่เท่านั้น พยายามหลบเลี่ยงสักนิดหน่อยก็ก้าวพ้นไปได้ง่าย แต่ของพระนั่นมีเหวอยู่ ๒๒๗ แห่ง พลาดเมื่อไหร่ลงทันที ในเมื่อเรามีโอกาสดีกว่าพระก็พยายามที่จะปฏิบัติให้เต็มที่ไว้ อย่าบอกว่าไม่มีเวลา ถ้ายังหายใจได้อยู่ต้องมีเวลา เพราะว่าหน้าที่ของเราคือรู้ตามลมหายใจเข้าออกของเรา รู้ลมหายใจพร้อมคำภาวนาไป

สมัยอาตมาเป็นทหารต้องตื่นตีห้าและนอนสามทุ่ม แต่พอสี่ทุ่มก็โดนปลุกให้ไปฝึกยุทธวิธีรบกลางคืน มานอนอีกทีตีสองตีสาม ตีห้าก็ต้องตื่นแล้ว ชีวิตวนเวียนอยู่อย่างนี้ตลอด ด้วยความที่รู้ว่าการภาวนานั้นดี และถ้าเราไม่ภาวนาให้ต่อเนื่องกิเลสมันกินเราได้ แล้วเราจะดึงกำลังใจคืนได้ยากมาก ก็ต้องสละเวลานอนที่มีเพียงน้อยนิดลุกขึ้นมาภาวนา สมมติว่านอนตีสอง พอถึงตีสามครึ่งก็ต้องลุกขึ้นมาภาวนาแล้ว แปลว่าคืนหนึ่งนอนหนึ่งชั่วโมง หรือชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ถ้าหากว่าลำบากหน่อยหนึ่ง เมื่อยหน่อยหนึ่ง หิวนิดหนึ่งเราบอกไม่ไหวแล้ว แล้วเราจะเอากำลังที่ไหนไปต้านพวกกิเลสได้?
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 27-11-2009 เมื่อ 11:39
สมาชิก 113 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา