ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 25-02-2009, 09:55
คนเก่า's Avatar
คนเก่า คนเก่า is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: ชมพูทวีป
ข้อความ: 189
ได้ให้อนุโมทนา: 21,727
ได้รับอนุโมทนา 55,279 ครั้ง ใน 1,402 โพสต์
คนเก่า is on a distinguished road
Default

ว่าจะตั้งเป็นกระทู้ใหม่ เห็นว่าเริ่มเรื่องในกระทู้นี้ไว้แล้ว เลยมาต่อเติมให้สมบูรณ์ เพราะอยู่ในเหตุการณ์พร้อม ดร.ตั้ม ขณะที่พระอาจารย์บอกยานี้ และคุณตั้มก็เขียนเป็นวิทยาทานไว้ด้วย จึงลอกมาแปะ ง่ายดี ฮิ ๆ

.........................................................

ตำรับยารักษาโรคโลหิตเป็นพิษของท่านปู่ชีวกโกมารภัจ

เมื่อวันเสาร์ที่ ๗ ก.ค. ๒๕๕๐ ผมได้ไปถวายสังฆทานที่บ้านอนุสาวรีย์ ช่วงเวลาที่หลวงพี่เล็กว่างจากการรับสังฆทาน ท่านได้เล่าให้ฟังว่า หลายวันก่อนท่านปู่ชีวกโกมารภัจ ท่านคงว่าง ท่านเลยลงมานั่งคุยด้วย เป็นการมาในลักษณะเหมือนการเข้าทรง โดยผ่านร่างของหญิงสาวท่านหนึ่งที่มาบ้านอนุสาวรีย์ แล้วท่านก็ได้บอกตำรับยาสำหรับรักษาโรคโลหิตเป็นพิษให้ไว้

พอผม (ดร.ตั้ม) ได้ยินหลวงพี่เล็กท่านเล่าถึงตำรับยาดังกล่าว ก็ได้ขอตำรับยานั้นไปโดยคุณเล็กเป็นผู้จดให้ และรู้สึกดีใจมากที่ได้ยาวิเศษของท่านปู่ชีวกโกมารภัจ ผู้เป็นแพทย์ที่ถวายการรักษาแก่พระพุทธเจ้า เหตุที่ดีใจมากก็เนื่องจากขณะนั้น มีรุ่นน้องที่ป่วยด้วยโรคโลหิตเป็นพิษ กำลังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่ง มาตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๔๙ แล้ว แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ซ้ำร้ายกลับมีอาการหนักขึ้น เพราะพิษที่อยู่ในกระแสเลือดได้เริ่มเข้าสู่หัวใจแล้ว คณะแพทย์ผู้ทำการรักษาก็พยายามหาสาเหตุที่ทำให้โลหิตเป็นพิษ เพื่อที่จะทำการรักษากันอย่างสุดความสามารถ

จนกระทั่งเมื่อผม (ดร.ตั้ม) ได้นำตำรับยาที่ได้รับมาไปบอกให้ทราบ น้องเขาก็ให้ทางบ้านไปร้านขายยาแผนโบราณ จัดยามาให้ตามที่ได้จดมา ในคืนแรกที่น้องเขากินยา พอรุ่งเช้าก็มีการถ่ายท้องประมาณ ๑ - ๒ ครั้ง แล้วอาการถ่ายท้องก็หายไป ในวันนั้นเอง ผลการตรวจเลือดของวันก่อนที่จะกินยาออกมา ปรากฏว่าพิษได้เข้าสู่หัวใจไปแล้ว และแพทย์เริ่มหาสาเหตุของการที่โลหิตเป็นพิษพบ จึงพยายามให้ยาอย่างเต็มที่ โดยกำหนดให้ยาโดยการฉีดเข้าสู่เส้นเลือดตามจำนวนวันที่กำหนดไว้

คืนที่ ๒ น้องเขากินยาของท่านปู่ชีวกโกมารภัจไปอีก พอรุ่งเช้าสอบถามดูก็ปรากฏว่ามีการถ่ายท้องนิดหน่อย แต่ไม่เหมือนวันแรก แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ ผลการตรวจเลือดของเมื่อวาน (หลังจากที่กินยาของท่านปู่ชีวกโกมารภัจไปแล้ว ๑ แก้ว) ปรากฏว่า พิษที่อยู่ในกระแสเลือดหายไป คงเหลือเพียงส่วนที่เข้าสู่หัวใจอีกเพียงเล็กน้อย แพทย์ที่ทำการรักษาดีอกดีใจเป็นการใหญ่ แต่ก็งุนงงกับผลการรักษาที่เกิดขึ้น

หลังจากที่กินยาไป ๕ วัน ผลการตรวจเลือดออกมาว่า พิษที่เข้าสู่หัวใจหายไปแล้ว แพทย์ต่างก็มาแสดงความยินดีกับน้องเขาเป็นการใหญ่ และได้สั่งระงับการฉีดยาก่อนครบกำหนดที่ตั้งไว้เดิม และอีกเช่นเคย ด้วยความงุนงงและประหลาดใจเป็นอย่างมาก ว่าทำไมถึงได้หายได้เร็วเกินคาด (เรื่องกินยานี้น้องเขาแอบกินโดยไม่ได้บอกให้แพทย์ทราบ เพราะเกรงว่าจะโดนตำหนิและสั่งห้าม)

หลังจากกินยาครบ ๗ วัน และผลการตรวจเลือดที่ออกมาในวันนี้ (๑๖ ก.ค.๒๕๕๐) ปรากฏว่า อาการของโรคโลหิตเป็นพิษหายไปจนหมดสิ้น และคาดว่าอีกไม่กี่วันน้องเขาก็จะออกมาจากโรงพยาบาลได้เสียที หลังจากนอนพักรักษาตัวมาเป็นเวลาเกือบปี นับว่าเป็นข่าวที่น่ายินดีแก่ตัวของน้องและครอบครัวของน้องเขาเป็นอย่างยิ่ง

ผม (ดร.ตั้ม) ได้กราบเรียนเรื่องการรักษาโรคโลหิตเป็นพิษ โดยใช้ยาของท่านปู่ชีวกโกมารภัจ ให้หลวงพี่เล็กทราบ และท่านได้อนุญาตให้นำตำรับยานี้ มาประกาศให้สมาชิกเว็บพลังจิตทราบ เพื่อเป็นวิทยาทาน และเพื่อนำไปใช้รักษาผู้ที่เจ็บไข้ได้ป่วยเพราะโรคนี้

ตำรับยารักษาโรคเลือดหรือโรคโลหิตเป็นพิษ มีดังนี้
หญ้าหนวดแมว ๓ บาท
ทองพันชั่ง ๓ บาท
ตะไคร้ ๑๐ บาท
ขิง ๑ บาท
นำตัวยามาต้มกับน้ำ จำนวน ๑ ลิตร เคี่ยวให้เหลือ ๑ แก้ว ดื่มก่อนนอน ๗ วัน ติดกัน ตัวยาต้องเปลี่ยนทุกวัน

หมายเหตุ : ๑. คนเป็นโรคความดันสูง ห้ามรับประทาน ๒. ตัวยาสดดีกว่าแห้ง

ก่อนที่จะดื่มยา ผม (ดร.ตั้ม) ได้แนะนำให้น้องเขาทำดังนี้

ตั้งนะโม ๓ จบ สวดไตรสรณาคมน์ แล้วอธิษฐานขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ มีสมเด็จองค์ปฐมเป็นองค์ต้น สมเด็จองค์ปัจจุบันเป็นที่สุด พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย พระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา มีหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง หลวงพี่เล็ก วัดท่าขนุน และพระพรหม เทพเทวา เทวธิดา และท่านปู่ชีวกโกมารภัจ ได้โปรดสงเคราะห์ให้ยานี้ ช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ โดยเฉพาะโรคโลหิตเป็นพิษ ให้หายโดยฉับพลันทันทีด้วยเถิด
----------------------------------------------------------------------------

ในวาระเดียวกัน ท่านเมตตาให้ตำรายาแก้เบาหวานมาด้วย

เม็ดลูกตาลแก่ ๕ เม็ด ผ่าครึ่ง ต้มกับน้ำ ๑ หม้อ ดื่มแทนน้ำ
อย่างอาการหนักที่สุด ไม่เกิน ๓ หม้อ ก็จะหาย

พระอาจารย์กำชับว่า ให้คอยตรวจวัดระดับน้ำตาลในเลือดไว้ด้วย
เพราะอาจลดต่ำเกินไปด้วยฤทธิ์ยาได้

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 07-10-2013 เมื่อ 01:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 153 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ คนเก่า ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา