ดูแบบคำตอบเดียว
  #114  
เก่า 17-12-2014, 20:23
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,312 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ถาม : บางคนที่มีความสามารถพิเศษ เข้าใจสมมติในโลก เช่น เห็นว่าร่างกายหรือสิ่งของไม่ใช่แท่งทึบ ก็แทรกผ่านกันไปได้ เมื่อมีคนทำได้ถึงความพิเศษอันนี้แล้ว ทำไมจึงไม่เข้าใจความจริงของโลก ต้องถึงตรงไหนจึงจะเป็นปัญญา ? ?
ตอบ : ต้องเข้าถึงอริยสัจ ถ้าไม่เข้าถึงอริยสัจก็ยังเป็นปัญญาที่เอาตัวรอดไม่ได้ ในส่วนที่เขาเรียกว่าวิสุทธิ ๗ อย่างคือสีลวิสุทธิ จิตวิสุทธิ ทิฏฐิวิสุทธิ ก็คือความบริสุทธิ์ของศีล ความบริสุทธิ์ของจิต ความบริสุทธิ์ของทิฐิ คือความเห็น

บริสุทธิ์ของศีลก็จัดอยู่ในส่วนของศีลในไตรสิกขา จิตวิสุทธิจัดอยู่ในส่วนของสมาธิหรืออธิจิตสิกขา ทิฏฐิวิสุทธิจัดอยู่ในส่วนของปัญญา ก็คือปัญญาสิกขา ก็เลยกลายเป็นว่าในส่วนของปัญญาแท้ ๆ ก็ยังมีหลายระดับ เพราะยังมีกังขาวิตรณวิสุทธิ ก้าวข้ามความสงสัยเสียได้ จึงเกิดมัคคามัคคญาณวิสุทธิ เห็นหนทางที่จะมุ่งไปสู่ความบริสุทธิ์หลุดพ้น จากนั้นก็เป็นปฏิปทาญาณวิสุทธิ ทำเพื่อให้ถึงซึ่งความบริสุทธิ์หลุดพ้น จนไปถึงญาณทัสสนวิสุทธิ รู้แจ้งเห็นจริง เข้าถึงความบริสุทธิ์สิ้นเชิง เปรียบไปแล้วก็เหมือนกับคนเดินขึ้นที่สูง ยิ่งขึ้นสูงเท่าไรก็ยิ่งมองได้ไกลเท่านั้น

ฉะนั้น...ถ้ากำลังของศีล ของสมาธิของเราสูงมากเท่าไร ปัญญาของเราก็จะกว้างไกลเท่านั้น แล้วท้ายสุดก็จะสามารถเห็นทุกข์และเข้าถึงความดับทุกข์ได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 02-09-2021 เมื่อ 19:20
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 168 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา