ดูแบบคำตอบเดียว
  #22  
เก่า 01-12-2014, 11:55
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,459
ได้ให้อนุโมทนา: 151,110
ได้รับอนุโมทนา 4,400,231 ครั้ง ใน 34,048 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์เล่าว่า "สาว ๆ สมัยก่อนเขาใช้ส้มมะขามขัดผิว อาบน้ำเสร็จก็ทาแป้ง ทาขมิ้น สมัยก่อนเขาอาบน้ำประณีตมากเลย รุ่นพี่ป้าน้าอาสมัยก่อน จะกระโจมอกไปอาบน้ำที่ท่าน้ำ ค่อย ๆ ขัดสีฉวีวรรณ จึงเข้าใจว่าการขัดสีฉวีวรรณมาจากการอาบน้ำของคนรุ่นก่อนนี้เอง คนรุ่นก่อนทำอะไรประณีตมาก ค่อย ๆ ผสมดินสอพองกับขมิ้น ค่อย ๆ ขัดผิวด้วยส้มมะขาม

ที่ภรรยาของนายประตูเมืองเตือนศรีสุวรรณกับเพื่อนว่า "เห็นผู้หญิงริงเรือที่เนื้อเหลือง อย่ายักเยื้องเกี้ยวพานนะหลานขวัญ แต่ละนางมิใช่ชั่วตัวสำคัญ จะเสียสันเปล่า ๆ ไม่เข้าการ" คำว่า "ริงเรือ" คือผิวเนื้อเหลืองแบบเรื่อ ๆ บางคนใช้คำว่า "ผิวนวลมะปรางสุก"

พอมารุ่นหลังเขาไม่เข้าใจคำโบราณ เขาเลยเปลี่ยนเป็น "ผู้หญิงยิงเรือ" เพราะเขามีสำนวนเก่าว่า "ผู้ชายพายเรือ" ก็คือ ร่อนเร่ตระเวนไปเรื่อย ๆ ไม่เป็นโล้เป็นพาย เขาก็เลยเหมาว่า คำนี้ต้องเป็นผู้หญิงยิงเรือ เพราะผู้ชายพายเรือ...

เสียสัน คือโดนโบยจนสันหลังลาย โทษฐานที่ไปเกาะแกะนางในรั้วในวังเข้า"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-01-2015 เมื่อ 03:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 229 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา