ถาม : หนูเล่าเรื่องพระที่ท่านมรณภาพแล้วร่างกายไม่เน่าเปื่อยให้ครูฟัง ครูเขาถามว่าที่ตายไม่เน่าเปื่อยเกิดจากอะไร ?
ตอบ : คนตายแล้วไม่เน่ามีหลายสาเหตุด้วยกัน สาเหตุที่ ๑ บริเวณที่ศพอยู่มีแร่ธาตุบางอย่างที่รักษาสภาพศพเอาไว้ไม่ให้เน่าเปื่อย ประเภทที่ ๒ คนผู้ตายกินว่านยาบางอย่างเข้าไป ตายแล้วก็ไม่เน่าเปื่อย ประเภทที่ ๓ ก็คือใช้คาถาอาคมเสกอาหารกินทุกวันตายก็ไม่เน่าเปื่อย ประเภทสุดท้ายก็คือบุคคลที่ตั้งใจอธิษฐานร่างทิ้งเอาไว้เป็นตัวแทนให้ลูกศิษย์ได้กราบไหว้บูชา ถ้าทำถึงระดับนั้นได้อธิษฐานทิ้งเอาไว้ก็ไม่เน่าเปื่อยเหมือนกัน
ต่อไปให้ถามครูนะไม่ใช่ให้ครูถาม เพราะครูมีหน้าที่ตอบ จำได้หมดไหมที่ว่าไป ...(หัวเราะ)... เดี๋ยวไปรอเขาถอดเป็นตัวหนังสือแล้วค่อยไปอ่านซ้ำ
ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : หนูไม่เคยได้ยินเรื่องทำมัมมี่หรือ ? เขาทำทิ้งไว้เป็นร้อยเป็นพัน นั่นแหละฝีมือนักวิทยาศาสตร์ แถมยังเป็นนักวิทยาศาสตร์โบราณด้วย
ถาม : บุคคลที่ตั้งใจอธิษฐานให้ร่างไม่เน่าเปื่อยนี่ต้องเป็นพระอรหันต์ ?
ตอบ : ไม่ใช่ แต่ต้องเป็นผู้ชำนาญในกสิณ ๑๐
ถาม : (ไม่ชัด)
ตอบ : เยอะแยะไป เพียงแต่เขาไม่หาเรื่องทิ้งไว้เพราะลำบากคนข้างหลัง คนที่ทำได้ระดับนั้นเขามีสติรู้อยู่ว่าอะไรควร อะไรไม่ควร
ถาม : มัมมี่ที่เขาทำต้องเอาอวัยวะภายในออกมาก่อน ?
ตอบ : ใช่ เพราะว่าวิทยาศาสตร์เขายังไม่สามารถรักษาอวัยวะภายในได้ แต่ในเรื่องของจิตศาสตร์หรือว่าไสยศาสตร์เขาทำได้ อย่าคิดว่าวิทยาศาสตร์เก่งสิ วิทยาศาสตร์ตามหลังอยู่ไม่รู้ตั้งไกลเท่าไร
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-05-2016 เมื่อ 05:44
|