ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 15-03-2022, 00:12
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,619
ได้ให้อนุโมทนา: 151,818
ได้รับอนุโมทนา 4,413,361 ครั้ง ใน 34,209 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระพุทธเจ้าทรงกำหนดหลักของศีลทั้งหลายเหล่านี้ขึ้นมาตามความต้องการปกติของคน ดังนั้น...ศีลในความหมายหนึ่งจึงแปลว่า ความปกติ ก็คือ

ปกติคนเราไม่อยากให้ใครมาฆ่าเรา เราก็ไม่ควรที่จะไปฆ่าใคร ไม่ควรไปทำร้ายใคร

ไม่อยากให้ใครมาลักขโมย หยิบฉวยช่วงชิงสิ่งของของเรา เราก็ไม่ควรที่จะไปลักขโมย หยิบฉวยช่วงชิงสิ่งของของใคร

ไม่ต้องการให้เขามาแย่งคนที่รัก ของที่รักของเรา เราก็ไม่ควรที่จะไปแย่งคนรักของรักของใคร

ต้องการฟังแต่ความสัตย์ความจริง เราก็ไม่ควรที่จะโกหกมดเท็จใคร

ต้องการเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะสมบูรณ์ ก็ไม่ควรที่จะไปกินเหล้าเมายา เสพยาเสพติด เป็นต้น

อย่าคิดว่านี่เป็นของง่าย กระผม/อาตมภาพมั่นใจว่าคนไทยทั้งหมด ๖๗ ล้านคน ยอดตัวเลขนี้กรมการปกครองเพิ่งจะยืนยันมาเอง ที่มีศีล ๕ ครบถ้วนจริง ๆ ถึง ๖ ล้านคนหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ ? นอกนั้นล้วนแต่ขาดตกบกพร่องอยู่เสมอ

คราวนี้คำว่าศีล ๕ นั้น เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า มนุสสธรรม หลักธรรมที่ทำให้เราเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์ ถ้าหากว่าศีลบกพร่อง แปลว่าความเป็นมนุษย์ของเราไม่สมบูรณ์ เรากำลังทำตัวขาดทุนแล้ว เพราะว่าการที่ท่านทั้งหลายได้โอกาสมาเกิดเป็นมนุษย์นั้น ท่านต้องมีต้นทุนในอดีต คือศีล ๕ สมบูรณ์มาก่อน แต่ในเมื่อปัจจุบัน ถ้ารักษาศีลได้ไม่ครบ ความเป็นมนุษย์ของเราบกพร่อง โอกาสที่จะไปอบายภูมิก็มีสูงมาก

คราวนี้การรักษาศีล เราจะเหนื่อยยากในระยะแรก พอรักษาไปจนชิน กลายเป็นของธรรมดา มีสติ ขยับตัวก็รู้ว่าศีลจะขาดบกพร่องหรือไม่ ถ้าถึงระดับนั้นศีลก็จะย้อนมารักษาเรา
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-03-2022 เมื่อ 05:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา