ดูแบบคำตอบเดียว
  #63  
เก่า 03-07-2012, 08:01
ลัก...ยิ้ม ลัก...ยิ้ม is offline
ทีมงานเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 3,361
ได้ให้อนุโมทนา: 23,340
ได้รับอนุโมทนา 187,548 ครั้ง ใน 5,403 โพสต์
ลัก...ยิ้ม is on a distinguished road
Default

อดอาหาร ดัดความหิว

ระยะแรกที่มาถึงจังหวัดนครราชสีมา ท่านมาพักที่วัดท่าช้างก่อน ชาวบ้านที่นี่ใส่บาตรข้าวเจ้า ทำให้ท่านฉันไม่อิ่มท้องดังนี้

“... เหตุที่จะได้ดัดเจ้าของให้รู้เหตุรู้ผล รู้หนักรู้เบากัน ก็เพราะตอนที่ธาตุขันธ์มันกำลังรุนแรง ฉันข้าวเจ้าเสียด้วย ข้าวเจ้ามันไม่ค่อยอยู่ท้องนาน แหละเพราะเราไม่เคย ถ้าเคยก็ไม่เป็นไร อยู่โคราช วัดท่าช้างเป็นวัดกรรมฐาน เราลงไปทีแรกก็ไปอยู่วัดท่าช้าง ฉันเท่าไรมันก็ไม่อิ่ม จนกระทั่งรำคาญนะ เราก็ดี เพราะเรามุ่งธรรมนี่ แต่ธาตุขันธ์มันไม่ได้สนใจอรรถธรรมอะไรกับเรา มันมีแต่จะเอาท่าเดียว ฉันลงไปเท่าไรก็ไม่อิ่มไม่พอ เอามันอีก ‘เอ้า ฟาดมันลงไปให้มันอิ่ม จนกระทั่งไม่มีท้องใส่’


ปรากฏว่ามันเต็มอัดเลย ขนาดนั้นอัดลงไปแล้ว มันยังไม่หยุดความหิวความอยาก ยังอยาก เอาข้าวเปล่า ๆ มาฉันมันก็หวานไปเลย ‘เอ๊ มันทำไมจึงเป็นอย่างนี้ น่ารำคาญนะ’

ออกจากนั้นก็ไปล้างบาตร ล้างบาตรกลับมาเช็ดบาตรยังไม่เข้าถลก หิวข้าวอีกแล้ว ‘หือ มันทำไมจึงเป็นอย่างนี้’ นี่นะต้นเหตุจะดัดกัน ก็ให้กินมาสักครู่นี้แท้ ๆ ยังไม่ถึง ๓๐ นาทีเลย อิ่มออกมานี้ มาล้างบาตรเช็ดบาตร ยังไม่ได้เข้าถลกเลย ทำไมถึงอยากอีกแล้ว ตั้งแต่นี้ไปถึงวันพรุ่งนี้เช้าก็ ๒๔ ชั่วโมง มันทำไม มันเก่งนักหรือ
‘เอ้า ลองดูมันจะตายจริง ๆ หรือ ไม่ได้กินมันจะตาย จะลองดูสัก ๖-๗ วัน’


เอาเลยทีนี้ดัดมัน ตัดสินใจปุ๊บลงไป ตายก็ตาย ช่วง ๗ วันนี้มันจะตายเพราะไม่กินข้าว เอาให้เห็นเสียทีวะ จะทดลองดูให้รู้ความหนักเบาของธาตุของขันธ์ มันจะเป็นไปขนาดไหน ก็หยุดกึ๊กเลย ไม่เอา จนกระทั่งถึงกำหนดถึงมาฉัน มันไม่เห็นตายนี่นะ แน่ะ..จากนั้นมาก็พอฟัดพอเหวี่ยง ถึงจะหิวจะอะไร ธาตุขันธ์มันจะดื่มจะกินอย่างเดิมก็ตาม ทีนี้จิตใจก็ปล่อยกังวลได้ เพราะเคยรู้เรื่องราวกันมาแล้ว นี่มันเป็นเรื่องของธาตุของขันธ์กำลังดูดดื่ม มันเป็นอย่างนั้น ๆ เราอดแล้วเท่านั้นวันเท่านี้วัน.. ไม่เห็นตาย

พูดถึงเรื่องความหิวก็ไม่เห็นมันหิวเอานักเอาหนา วันหนึ่งสองวันมันหิวมาก พอจากนั้นไปแล้วก็ค่อยเบาลงไป จนกระทั่งถึงกำหนด วันฉันก็ไม่เห็นหนักหนาอะไรพอจะให้ล้มให้ตาย อันนี้เราฉันให้มันอยู่ทุกวัน ๆ แล้วฉันขนาดอิ่มแล้ว มันยังจะตายก็ให้มันตายไปซี เหมือนกับคนหมดกังวล ... ‘ยังไง’ ก็ขอให้มุ่งอรรถมุ่งธรรมเป็นสำคัญ ให้ฝังอยู่ภายในจิตใจ อย่าให้เอนเอียง สิ่งภายนอกที่เกี่ยวกับเรื่องธาตุเรื่องขันธ์ให้เป็นอันหนึ่ง อย่าถือสิ่งเหล่านี้เป็นใหญ่ยิ่งกว่าธรรม จิตใจจะค่อยเป็นไป และให้เข้มงวดกวดขัน

สิ่งใดที่จิตชอบ ๙๙% เป็นกิเลส ถ้าเป็นจิตเราธรรมดามักจะชอบในสิ่งที่เป็นภัย แต่ถ้าจิตมีธรรมขึ้นเป็นลำดับ ๆ นั้น อาจจะมีชอบหลายด้าน อาจหมุนเข้ามาชอบในธรรมภายนอกที่ยังชำระกันไม่ได้ ใจก็มีลักษณะชอบ แต่ก็รู้สึกตัวและพยายามแก้ไขไปโดยลำดับ จนกระทั่งความชอบเกี่ยวกับเรื่องโลก เรื่องสงสารจางไป ๆ จนกระทั่งความรู้สึกชอบทั้งหลายหมุนไปทางธรรมะล้วน ๆ จากนั้นใจก็สบาย แรงของโลกไม่ดึงดูดจิตใจได้ มีแต่จิตใจดึงดูดกับธรรมหมุนกันไปเลย....

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 03-07-2012 เมื่อ 16:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 44 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ลัก...ยิ้ม ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา