ดูแบบคำตอบเดียว
  #117  
เก่า 23-07-2018, 09:56
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,367
ได้ให้อนุโมทนา: 150,682
ได้รับอนุโมทนา 4,396,971 ครั้ง ใน 33,956 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "สมัยปัจจุบันเทคโนโลยีทำให้อะไรต่อมิอะไรง่ายขึ้นมาก สมัยอาตมาใช้คอมพิวเตอร์ใหม่ ๆ ช่วงนั้นเป็นเวิร์ดจุฬา ถ่ายข้อมูลแค่ไม่กี่เมกะไบต์นี่รอกันครึ่งค่อนวัน สมัยนี้ถ่ายข้อมูลกันทีหนึ่งหลาย ๆ สิบกิ๊กกะไบต์ แค่ไม่กี่นาที ซึ่งสมัยก่อนถ้าข้อมูลระดับกิ๊กกะไบต์นี่นอนรอไปได้เลย ๓ ชั่วโมงไม่เสร็จแน่นอน ด้วยความที่เทคโนโลยีต่าง ๆ ทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น กำลังใจของเราก็เลยพลอยมักง่ายขึ้น

คำว่ามักง่ายขึ้นในที่นี้ก็คือ ในเรื่องของการปฏิบัติธรรม ความจริงแล้วเป็นการสั่งสม ศีล สมาธิ ปัญญา ของแต่ละคน ทีละเล็กทีละน้อย เก็บสะสมไป จนกระทั่งเพียงพอต่อการใช้งาน เหมือนที่โบราณท่านบอกว่า เหมือนเก็บงาทีละเมล็ด นานไปก็มีเมล็ดงามากพอที่จะคั้นเอาน้ำมันไปใช้การได้

แต่พวกเราใจร้อนตามยุคตามสมัย ไม่ค่อยจะมีความอดทน ก็เลยทำให้ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในการปฏิบัติธรรม ใจร้อนใจเร็วเกินไป หลายคนมาถามเรื่องการฝึกกสิณว่า ผมภาวนาจับภาพพระนานเป็นชั่วโมงแล้ว ยังไม่ได้อะไรเลย อาตมาบอกว่าให้กลับไปอ่านตำราใหม่

ตำราเขาเขียนว่าการฝึกกสิณนั้น เมื่อได้วัตถุที่เป็นองค์กสิณมาแล้ว ตั้งไว้ในสถานที่เหมาะสม ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป ไม่สูงไม่ต่ำเกินไป ลืมตามองวัตถุนั้น แล้วหลับตาลงจำภาพไว้ แล้วใช้คำภาวนาตามกองกสิณนั้น ๆ เมื่อภาพหายไปก็ลืมตาขึ้นมองจดจำไว้ใหม่ หลับตาลงนึกถึงแล้วภาวนาต่อไป ทำอย่างนี้เป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง ไม่ใช่ทำไม่กี่ครั้ง หรือไม่ใช่ทำเป็นชั่วโมง แต่ทำเป็นหลาย ๆ ปี หรือหลาย ๆ สิบปี"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-07-2018 เมื่อ 12:19
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 191 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา