"หนทางในป่านั้น บริเวณที่พวกป่าไม้เดินไปไม่ถึง ก็ไม่ได้แปลว่าพรานจะเดินไปไม่ถึงด้วย ในเส้นทางระหว่างทุ่งใหญ่กับห้วยขาแข้ง จะมีด่านใหญ่อยู่เส้นหนึ่ง เป็นทางช้างเดิน ความกว้างน่าจะถึงสามเมตร ลึกประมาณหน้าแข้ง
ถึงเวลาช้างจะเดินผ่านเส้นนั้น พวกบรรดาสัตว์ต่าง ๆ ก็พลอยอาศัยไปด้วย อย่างพวกกระทิง พวกเก้ง พวกกวาง ฯลฯ สัตว์พวกนี้ไม่เคยได้กินของอร่อยข้างบน พอเดินตามช้าง ก็ได้อาศัยกินต้นไม้ใบไม้ หรือไผ่ที่ช้างดึงลงมาไปด้วย
พวกพรานก็ไปดักรออยู่แถวนั้น พรานบ้านช่องแป๊ะ บ้านแม่จันทะ แต่ละปีล่ากระทิงประมาณ ๒๐๐ ตัว อาวุธส่วนใหญ่เป็นไรเฟิลทันสมัย ตูมเดียวอยู่ทั้งนั้น เขาขนใส่เฮลิคอปเตอร์มาให้พร้อมกระสุน เฮลิคอปเตอร์ที่เข้าออกปกติเป็นของราชการหน่วยหนึ่ง
เขายิงกระทิงตัวหนึ่งหนักเป็นตัน แต่ตัดไปแค่หัว ขายให้กับพวกราชการ ราคา ๕๐๐ บาทเท่านั้น ส่วนเนื้อที่เหลือเป็นตันก็ทิ้งให้เน่าเฉย ๆ แล้วหัวนั้นก็ไปขายให้พวกข้าราชการเหล่านั้น ถึงเวลาก็เอาเครื่องบินขนออกมา รู้ ๆ อยู่ว่าใครทำ แต่ป่าไม้เขาเข้าไม่ถึง และก็ไม่อยากไปแตะต้องคนมีสี ก็ต้องปล่อยเลยตามเลย
ที่โป่งจงโคร่ง รอยต่อระหว่างอุ้มผางและห้วยขาแข้ง เป็นโป่งน้ำ สัตว์จะชอบมาก เพราะนอกจากจะได้กินเกลือแล้วยังได้กินน้ำด้วย ไม่ต้องเสียเวลาไปแทะดินแล้วหาน้ำกินอีก ดูดน้ำเกลือเข้าปากก็สบาย เวลาสัตว์เขาขาดเกลือก็จะไปหาดินโป่ง (ดินเค็ม) พวกนี้กิน"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-08-2010 เมื่อ 14:28
|