ดูแบบคำตอบเดียว
  #18  
เก่า 24-11-2009, 14:05
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,147
ได้รับอนุโมทนา 4,405,275 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เราจะเห็นได้ว่า ทานเป็นปัจจัยให้เราละความโลภได้ก็จริง แต่ว่าเราสามารถนำเอาทานบารมีตรงนี้มาส่งให้เรามีศีล มีภาวนาได้

คำว่าศีลก็คือ การที่เราตัดใจ งดเว้นจากการฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม โกหกมดเท็จและดื่มสุราเมรัย ซี่งสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ถ้าไม่ใช่คนกำลังใจเข้มแข็งก็จะทำไม่ได้ แต่ว่าท่านทั้งหลายมีกำลังใจเข้มแข็ง ตัดใจในการสละทรัพย์ได้ สละอวัยวะได้ สละชีวิตได้ เรื่องของศีลก็เป็นเรื่องเล็ก เราต้องรักษาได้อย่างแน่นอน

อย่างการภาวนาก็คือการที่เราเห็นว่า การทำบุญนี้ประกอบด้วยทุกข์เป็นปกติ ขึ้นชื่อว่าโลกที่มีแต่ความทุกข์เช่นนี้เราไม่ต้องการมาเกิดอีก ร่างกายที่มีแต่ความทุกข์เช่นนี้เราไม่ต้องการอีกแล้ว เราปรารถนาที่เดียวคือนิพพาน ทุกอย่างที่เราทำ เราตั้งความปรารถนาไว้ว่า ขอพระนิพพานแห่งเดียว การที่เราตั้งเป้าหมายสูงสุดนั้น ตลอดระยะทาง เรามีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเราก็จะพบ เราก็จะเห็น และเราก็จะได้สิ่งทั้งหลายเหล่านั้นเองโดยอัตโนมัติ

ฉะนั้น..ท่านทั้งหลายที่มาทำบุญกฐินที่เกาะพระฤๅษีแห่งนี้ก็ดี หรือกฐินสามวัดที่วัดท่าขนุนก็ดี รวมแล้ววันนี้เราสร้างอานิสงส์ในสังฆทานพิเศษ คือ ทำบุญกฐินสี่วัดด้วยกัน ขณะเดียวกันถ้าเราคิดเป็น ทำเป็น เราก็จะสามารถใช้บุญกฐินนี้ ส่งผลให้เราเป็นผู้มีศีล สมาธิ และปัญญา และท้ายสุดตั้งความปรารถนาสุดท้ายไว้ที่พระนิพพาน ถ้าท่านทั้งหลายสามารถรักษากำลังใจได้เช่นนี้ตลอดเวลา ชาตินี้ท่านทั้งหลายไม่พลาดจากพระนิพพานอย่างแน่นอน
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-10-2011 เมื่อ 03:54
สมาชิก 126 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา