คำว่ามากกว่าเดิม ไม่ได้หมายความว่าให้เราภาวนาอยู่ตลอดเวลาทั้งวัน ถ้าท่านกระทำถึงจริง ๆ ไม่ต้องมาก แค่ระดับปฐมฌานละเอียด เราจะรู้ลมและคำภาวนาโดยอัตโนมัติ เมื่อถึงเวลาก็ใช้สติสมาธิ ประคับประคองอาการรู้ลมอัตโนมัตินั้น ให้อยู่กับเราให้ยาวนานที่สุดเท่าที่จะทำได้
แรก ๆ ก็ได้ไม่นาน แต่พอใช้ความพยายามเข้า ก็ได้เป็นวัน ๒ วัน ๓ วัน ๔ วัน ๕ วัน ๗ วัน ๑๕ วัน ๑ เดือน ๒ เดือน ๓ เดือน เป็นต้น ยิ่งกำลังใจของเรามีความสะอาดผ่องใสเพราะกิเลสแทรกไม่ได้เนิ่นนานเท่าไร ปัญญาของเราก็มีความชัดเจน แจ่มใส แหลมคม สามารถที่จะหาวิธีการตัด การละ จากรัก โลภ โกรธ หลงได้ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป
ถ้ากำลังเพียงพอ เราเห็นแล้วก็เกิดความเบื่อหน่าย คลายกำหนัด สามารถถอนจิตของตนเองพ้นจากกองทุกข์ ก็แปลว่าเราสามารถเข้าสู่พระนิพพานได้ในชาตินี้ได้อย่างแน่นอน
จึงขอให้ทุกคนรู้สึกว่า เราเหมือนกับบุคคลที่อยู่บนบ้านที่ไฟกำลังไหม้ เราไม่สามารถที่จะนิ่งนอนใจอาศัยอยู่ในบ้านนี้ต่อไปได้แล้ว มีทางเดียวก็คือต้องรีบหนีเอาชีวิตรอดอย่างว่องไวที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเราเองเกิดมานับชาติไม่ถ้วน สร้างความชั่วไว้นับไม่ถ้วน เผลอเมื่อไรเราก็ต้องตกสู่อบายภูมิอย่างแน่นอน สถานที่เดียวที่เราจะหลุดพ้นได้อย่างสิ้นเชิงก็คือพระนิพพาน
ขอให้ทุกคนตั้งใจ ตั้งเป้าหมายไว้ที่พระนิพพานเป็นหลัก การปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ไม่ว่าจะด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจก็ตาม ให้ทุกคนตั้งใจว่า สิ่งที่เราทำอยู่นี้ก็เพื่อพระนิพพานแห่งเดียวเท่านั้น แล้วเอากำลังใจจดจ่อปักมั่นอยู่กับอารมณ์พระนิพพาน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-09-2012 เมื่อ 11:52
|