ดูแบบคำตอบเดียว
  #95  
เก่า 20-07-2015, 15:32
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,479
ได้ให้อนุโมทนา: 151,127
ได้รับอนุโมทนา 4,405,021 ครั้ง ใน 34,068 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "พวกเราขนาดมีรถไฟฟ้ายังเอารถมากันอีก อาตมาอุตส่าห์ยอมเสียเงิน ๓๐ กว่าล้านบาท หาที่ตรงนี้ไว้สร้างบ้าน ไว้อาศัยรถไฟฟ้าให้พวกเรามา ก็ไม่นึกว่ายังอุตส่าห์เอารถมากันอีก ถ้ารู้ว่าไม่ต้องมีรถไฟฟ้าก็มาได้ ก็ไม่ต้องเสียเงินซื้อที่แพง ๆ ต้องบอกว่าพวกเราขาดจิตสาธารณะในการที่ทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง

อาตมาไปยุโรป ฝรั่งตัวเท่าบ้านเท่าตึกยังยัดเข้าไปในรถเล็ก ๆ คันนิดเดียว ที่นั่งเดียวบ้าง สองที่นั่งบ้าง เขาทำเพื่อประเทศชาติของเขา เพื่อให้อากาศไม่มีมลพิษ ถึงเวลาจะจอดก็เสียบหัวเข้าข้างทาง กินเนื้อที่เท่ากับรถมอเตอร์ไซต์ ๒ คัน ต้องบอกว่าฝรั่งตัวเล็กกว่าควายนิดเดียว ยังยอมลำบากเพื่อประเทศชาติตัวเอง แต่พวกเราใช้รถกันอย่างครึกครื้น ไม่ได้ดูว่าสิ้นเปลืองเท่าไร

จะว่าไปแล้วระบบขนส่งมวลชนของเราก็ยังไม่ดีพอ เพราะว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา แก้ไขปัญหาการจราจรด้วยการสร้างถนน ซึ่งเป็นการแก้ไขที่ผิด ยิ่งสร้างถนน คนก็ยิ่งเอารถขึ้นมาบนถนนกันมากขึ้น ปัจจุบันนี้บ้านเราถ้าเอารถทุกคันออกมา จะไม่มีแม้แต่ที่ให้จอด รถใหม่แค่ไหน แพงแค่ไหน พอมีโฆษณา อีกไม่กี่วันบ้านเราต้องมีออกมาวิ่ง ฉะนั้น..ในจุดที่รัฐบาลควรจะแก้ไขคือ การสร้างระบบขนส่งมวลชนให้ดี อย่างประเทศญี่ปุ่น รถไฟเขาช้าอย่างมากที่สุดไม่เกิน ๓ วินาที ขอยืนยันว่า ๓ วินาที ถ้าอย่างนั้นทุกคนจะสามารถกำหนดได้ว่า จะไปถึงที่ทำงานกี่โมงกี่ยาม จึงไม่จำเป็นต้องมีรถ

คนญี่ปุ่นจะซื้อรถ คนขายต้องไปสำรวจบ้านก่อนว่ามีที่จอดหรือไม่ ถ้าขายรถไปโดยที่คนซื้อไม่มีที่จอด คนขายติดคุกหัวโต ญี่ปุ่นอนุญาตให้ใช้รถยนต์บนท้องถนนได้แค่ ๓ ปี ปีแรกเสียภาษีปกติ ปีที่ ๒ เสียเพิ่มเป็นเท่าตัว ปีที่ ๓ เกือบเท่ารถใหม่ เท่ากับบังคับให้เปลี่ยนรถโดยปริยาย รถยนต์ห้ามวิ่งเกิน ๘๐ กิโลเมตรต่อชั่วโมง ต้องทิ้งช่วงห่างกัน ๑ เสาไฟฟ้า ใครวิ่งเร็วกว่านั้น หรือจี้ติดมากกว่านั้น โดนจับยึดใบขับขี่ ดังนั้น..ถ้าอยากเดินทางช้าในญี่ปุ่นให้เดินทางด้วยรถส่วนตัว แต่ถ้าอยากเดินทางเร็วให้ใช้ขนส่งมวลชน

ที่บ้านเขาทำอย่างนั้นได้เพราะว่าเขาคุมราคารถไว้ที่ ๑๐ เท่าของเงินเดือนขั้นต่ำ อย่างของบ้านเรา ถ้าเงินเดือนขั้นต่ำคือ ๑๕,๐๐๐ บาท ราคารถยนต์จะไม่เกิน ๑๕๐,๐๐๐ บาท อย่างฮ่องกง คุณซื้อรถได้เสรี แต่ค่าจอดแพงหูดับตับไหม้ จึงไม่มีใครอยากมีรถยนต์ ออสเตรเลีย ถ้าจะซื้อคันใหม่ ต้องเอาคันเก่าไปให้เขาบี้เป็นเศษเหล็กก่อน แล้วถอดทะเบียนคันเก่า ไปให้เขาลงประวัติใหม่แล้วเอาไปใช้ต่อ ถ้าคุณมั่นใจว่าไม่ได้ใช้รถเดือนนี้ ถอดป้ายทะเบียนไปฝากตำรวจไว้ ก็ไม่ต้องเสียภาษีเฉพาะเดือนนั้นได้

แต่บ้านเราส่วนใหญ่แล้วบริษัทจำหน่ายรถจะสนับสนุนพรรคการเมือง จึงต้องหาทางช่วยเขาขายรถให้ได้มากที่สุด ขณะเดียวกันก็ไม่ยอมปล่อยให้ค่าน้ำมันลอยตัวเป็นไปตามตลาด เราจึงใช้รถกันแบบไม่รู้สึกรู้สา สังเกตได้ว่า ตอนน้ำมันขึ้นจาก ๑๓ บาทกว่ากลายเป็น ๒๔ บาท รถหายจากท้องถนนไปเกินครึ่ง แต่หลังจากนั้นไม่กี่เดือนก็ออกมาเต็มถนนเหมือนเดิม เพราะเริ่มตายด้านอีกแล้ว

ตอนที่อาตมาไป
เขมรเมื่อปีก่อนโน้น น้ำมันลิตรละ ๕๗.๕๐ บาท บังเอิญว่าญาติโยมที่ไปสามารถเข้านอกออกในบ้านท่านนายกฯ ฮุนเซนได้ เมื่อฝากคำถามว่าทำไมถึงปล่อยให้น้ำมันแพงอย่างนั้น ชาวบ้านจะอยู่ได้อย่างไร ท่านนายกฯ ฮุนเซนที่ใคร ๆ บอกว่าไม่จบ ป.๔ ตอบง่ายมากว่า "ถ้าเขามีปัญญาซื้อรถ เขาก็ต้องมีปัญญาเติมน้ำมันรถ" บ้านเรามีนายกฯ คนไหนกล้าทำอย่างนี้ไหม ? ทุกวันนี้ส่วนที่สิ้นเปลืองที่สุดก็คือรถ ซื้อมาก็ "ลด" ทันที ไม่มีเพิ่ม"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 20-07-2015 เมื่อ 17:14
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 167 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา