ดูแบบคำตอบเดียว
  #2  
เก่า 25-11-2017, 19:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,826 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

วิธีการจัดการกับกามราคะนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากำหนดให้ฝึกอสุภกรรมฐาน แต่อสุภกรรมฐานในปัจจุบันของเรานั้น หาฝึกได้ยาก เพราะว่าสมัยนี้ไม่มีป่าช้าผีดิบที่เอาศพไปทิ้งไว้เกลื่อนกลาดเหมือนสมัยที่อาตมายังเด็ก ๆ อยู่ แม้กระทั่งการการเผาศพก็ยังมีการพัฒนา ก็คือเป็นเตาเผาปลอดมลพิษ เป็นต้น

ครั้นจะไปดูสิ่งที่เป็นอสุภะ คือสิ่งไม่สวยไม่งาม ก็คงจะมีแต่ในตลาดสด อย่างเช่น เขียงหมูหรือเขียงปลา แต่คราวนี้เราใช้ระยะเวลาที่ไม่ยาวนานพอ หลายท่านฝึกอสุภกรรมฐานด้วยการไปโหลดรูปต่าง ๆ จากทางอินเตอร์เน็ตมาเพื่อใช้เพ่งพินิจพิจารณา อาตมาขอยืนยันว่าได้ผลน้อยมาก ที่ได้ผลน้อยมากเพราะว่าเราเห็นแต่รูป แต่ไม่มีกลิ่นประกอบด้วย

ซากศพเป็นที่น่ารังเกียจของเรานั้น ไม่ใช่อุจาดต่อสายตาอย่างเดียว แต่มีกลิ่นเป็นที่น่ารังเกียจมากด้วย ถึงขนาดที่เรายืนผิดที่ผิดทาง เผลอให้ลมกรรโชกพากลิ่นมาใส่ บางคนถึงขนาดเจ็บไข้ไม่สบายไปเลยก็มี

ในเมื่อเราไม่สามารถที่จะกระทำได้ชัดเจนในปัจจุบันนี้ แล้วเราจะใช้วิธีไหน ? องค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ายังมีกายคตานุสติกรรมฐาน ก็คือให้เราระลึกเห็นความเป็นจริงในร่างกายของเรา ว่าประกอบไปด้วยเครื่องจักรกลต่าง ๆ ประกอบด้วยอาการ ๓๒ มีตับ ไต ไส้ ปอด ม้าม หัวใจ อวัยวะภายนอกภายในที่เห็นอยู่ ถ้าหากว่าไม่ชัดเจนก็ตลาดสด...ไปดู จะเป็นหมู เป็นไก่ เป็นปลา ก็มีลักษณะเดียวกับเรา

บุคคลที่คลุกคลีตีโมงอยู่อาจจะไม่รู้สึก อย่างเช่น คนขายหมู เป็นต้น แต่พวกเราที่นาน ๆ เดินผ่านเขียงขายเนื้อขายหมูกันแต่ละที บางทีแค่กลิ่นอย่างเดียวเราก็ทนไม่ได้แล้ว
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-11-2017 เมื่อ 19:50
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 40 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา