ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า 20-10-2009, 09:59
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,614
ได้ให้อนุโมทนา: 151,817
ได้รับอนุโมทนา 4,413,225 ครั้ง ใน 34,204 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ขอให้ทุกท่านระมัดระวังตรงจุดนี้ให้ดี ตอนที่เราคลายกำลังใจออกมานั้น กำลังใจจะมีกำลังสูงมาก ถ้าทรงเป็นฌานได้ก็มีกำลังสูงในระดับตัดกิเลสขั้นต้นได้เลย ถ้าหากเป็นกำลังใจที่ทรงถึงฌานสี่ คล่องตัวได้ มีสิทธิ์ที่จะตัดกิเลสในระดับอนาคามีได้ ในเมื่อกำลังใจมีกำลังสูงขนาดนี้ ถ้าเราไม่หาวิปัสสนาญาณให้เขาพิจารณา เขาก็จะฟุ้งซ่านไปในรัก โลภ โกรธ หลงแทน คราวนี้จะเป็นรักโลภโกรธหลงที่มีรสชาติเป็นพิเศษ เพราะว่าใช้กำลังสมาธิที่เราฝึกได้มาฟุ้งซ่านแทน

กำลังสมาธินั้นเราเอาไว้พิจารณาวิปัสสนาญาณเพื่อตัดกิเลส ในเมื่อเอามาใช้ในการฟุ้งซ่านแทน กำลังใจก็จะฟุ้งซ่านได้อย่างเข้มข้นมากมายกว่าที่เราคิด ลึกซึ้งกว่าที่เราคิด และพาให้เรายึดติด ไม่สามารถที่จะปล่อย ที่จะคลายออกได้

เมื่อเราระมัดระวังตรงจุดนี้แล้ว จะรู้ได้อย่างไรว่ากำลังใจเราก้าวข้ามนิวรณ์ ๕ นี้ไปแล้ว ก็ให้ดูว่ากำลังใจของเราตอนนั้นยินดีในลมหายใจเข้าออกหรือไม่ ระหว่างที่ตามดูลมหายใจเข้าออกมีคำภาวนาอยู่ด้วยหรือไม่ เมื่อตามดูลมหายใจเข้าออกมีคำภาวนาอยู่ด้วยแล้ว อารมณ์ใจต่าง ๆ ที่เป็นรัก โลภ โกรธ หลงเกิดขึ้นแก่เราในขณะนั้นเรารู้เท่าทันหรือไม่ ถ้าหากว่าสามารถรู้เท่าทันมัน เราก็นำกำลังในส่วนนี้มากดกิเลสไว้ก็ตาม มาพิจารณาเพื่อให้ปัญญายอมรับแล้วปล่อยวางก็ตาม ก็นับว่าเป็นหน้าที่ที่เราต้องประพฤติปฏิบัติกัน เป็นสิ่งที่เร่งรัดให้เราก้าวไปสู่ความหลุดพ้นได้ง่าย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
สมาชิก 53 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา