ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 24-10-2022, 00:29
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,629
ได้ให้อนุโมทนา: 151,867
ได้รับอนุโมทนา 4,413,883 ครั้ง ใน 34,219 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พวกเราจะเห็นว่าพระวัดท่าขนุนฉันอาหารไม่เคยเกิน ๑๕ นาที ไปวัดอื่นนี่จะตายเอา เพราะว่าเขาฉันกันเป็นชั่วโมง ก็ต้องนั่งเป็นเพื่อนเขาไปเรื่อย หยิบโน่นนิด หยิบนี่หน่อย ฉันเพื่อไม่ให้เขาเขิน สรุปว่าตัวเองเกือบจะท้องแตกตาย..!

ในเมื่อเป็นเช่นนั้น สิ่งที่เราทำจึงต้องดูกาละ คือ เวลาที่เหมาะสม ดูเทศะ คือ สถานที่อันเหมาะสม ไม่ใช่ว่าถึงเวลานึกอยากจะทำตรงนี้ก็ทำ ของบางอย่างก็ผิดพระธรรมผิดวินัย พระไม่สามารถที่จะรับไว้ได้

อย่างเช่นว่าซื้อเนื้อหมูสดมา ๓ - ๔ กิโลกรัม แล้วก็ถวายใส่บาตรพระมา..! เพราะว่าศีลพระห้ามทำอาหารด้วยตนเอง ห้ามเก็บตุนอาหารเอาไว้ ถ้าถามว่าวัดที่มีโรงครัวล่ะ ? วัดที่มีโรงครัวเขามีแม่ชี มีฆราวาสรับผิดชอบ ไม่ใช่พระไปตุนเอาไว้ ของสด ของดิบ โดยเฉพาะจำพวกเนื้อ พระฉันไม่ได้ ลาบ หลู้ ก้อย ซอยแซ่ อะไรก็แล้วแต่ หมดสิทธิ์โดยประการทั้งปวง เพราะว่าเป็นอาหารดิบ

ที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้พระป่วยเป็นโรคสารพัด อย่างที่พวกเราเป็นกันอยู่ อย่างเช่นว่าพยาธิใบไม้ขึ้นสมองอย่างนี้ เพราะไปกินอาหารดิบ พระองค์ท่านมีอนามัยสูงมาก และสั่งห้ามเอาไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ว่าพวกเราส่วนหนึ่งก็ยังไม่เข้าใจ หรือไม่ได้ศึกษา อาหารอย่างหนึ่งที่ก้ำกึ่งกันมากเลย คือหมูกระทะ เพราะว่าพระต้องมานั่งปิ้งเอง ก็ในเมื่อห้ามหุงต้มเอง ไปปิ้งเองก็ไม่น่าจะใช่

บางท่านไปถวายอาหารพระวัดป่า แล้วก็ไม่ได้คำนึงถึงว่าท่านอยู่ท่านกินอย่างไร ปรากฏว่าอาหารที่เอาไป มีทั้งต้มยำ มีทั้งต้มจืด มีทั้งแกง น้ำล้วน ๆ แล้วพระท่านฉันในบาตร แล้วส่วนใหญ่ฉันด้วยมือ แล้วจะฉันอย่างไร ?

ดังนั้น..ทุกอย่างที่เราทำ จำเป็นที่จะต้องศึกษาข้อมูลก่อน บางท่านบอกว่า "เสียเวลาอ่านตำรา ทำเลยได้ผลเร็วกว่า" นั่นแปลว่าคุณต้อง "ฟลุก" เท่านั้น เพราะว่าถ้าไม่ได้ศึกษาแนวทางเอาไว้ก่อน จะรู้ได้อย่างไรว่าท่านเดินไปทางนี้แล้วไม่ผิด

ดังนั้น..ในเรื่องของปริยัติ คือการศึกษาเล่าเรียน และเรื่องปฏิบัติ คือการกระทำให้เกิดผล เป็นของคู่กัน ขาดกันไม่ได้ แต่ต้องพอเหมาะพอดี ยึดตำรามากเกินไปก็ไปไหนไม่เป็น
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-10-2022 เมื่อ 03:05
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 31 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา