อีกจุดหนึ่งที่ทำให้ศาสนาของเราอยู่ในลักษณะที่เสื่อมถอย ก็คือ บุคคลากรที่จะมาบวชมีน้อย อย่าลืมที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า เกิดมาเป็นมนุษย์ก็แสนยาก กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ การจะดำรงชีวิตอยู่รอดไปจนกระทั่งบวชก็แสนยาก กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ กว่าจะมีอายุถึง ๒๐ ปี โอกาสตายก็มีเยอะเลย กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ การจะได้ฟังธรรมนั้นแสนยาก กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท การเกิดขึ้นของพระพุทธเจ้านั้นยากที่สุด
ในเมื่อสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ยาก แล้วคนในปัจจุบันยังติดข้องอยู่กับกระแสบริโภค โดยเฉพาะในส่วนของหน้าที่การงานต่าง ๆ ไม่อำนวยให้ลาบวชนาน ๆ อย่างเก่งก็ลาได้ ๗ วัน ๑๕ วัน ราชการยังดีอนุญาตให้ลาได้ ๑๒๐ วัน แต่ก็ให้คนละครั้งเดียวตลอดชีวิต..!
ในเมื่อบุคคลากรที่จะเข้ามาบวชมีน้อย แล้วจะให้ศาสนาเจริญรุ่งเรืองจึงเป็นไปได้ยาก อย่างของวัดท่าขนุนปีนี้ส่งรายชื่อพระเณรจำพรรษาทั้งหมด ๓๔ รูป วัดอื่นเขาเห็นเป็นของประหลาด วัดบ้านนอกเอาพระเณรจากที่ไหนมาเยอะขนาดนั้น ? ส่วนใหญ่จะมีให้ครบ ๕ รูปเพื่อรับกฐินก็ยากแล้ว
พอการเรียนต่าง ๆ โดยเฉพาะในระดับปริญญา ไม่ว่าจะเป็นศาสนศาสตรบัณฑิตหรือพุทธศาสตรบัณฑิต ได้รับการรับรองและกำหนดขั้นเงินเดือนโดย ก.พ. ขึ้นมา พระเณรก็สึกไปทำงานกันเสียมาก จากที่เราเคยภูมิใจว่า ประเทศไทยมีพระเณรอยู่ประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ รูป ปรากฏว่าตอนนี้มีอยู่ประมาณ ๑๒๕,๐๐๐ รูปเท่านั้น หายไปเกินครึ่ง
คราวนี้เรามาดูว่า การสำรวจประมาณปี ๒๕๓๐ บ้านเรามีพระเณรประมาณ ๒๐๐,๐๐๐ รูป ตอนนี้ปี ๒๕๕๓ ตีเสียว่า ๒๐ ปีเหลือประมาณครึ่งหนึ่ง แล้วถ้าเราคิดเทียบบัญญัติไตรยางค์ อีก ๒๐ ปีข้างหน้าจะเหลือเท่าไร ? ก็น่าจะเหลือไม่ถึงแสน..!
ถามว่าในเมื่อการศึกษาทำให้พระสึกหาลาเพศไปเยอะ เราจะไม่สนับสนุนการศึกษาหรือ ? ไม่ใช่..จำเป็นต้องสนับสนุน เพราะถ้าหากความรู้ไม่เพียงพอ ก็ไม่สามารถที่จะออกไปทำมาหากินได้ พระศาสนาของเราถือว่าเปิดกว้างสำหรับทุกคน การเปิดกว้างก็อยู่ในลักษณะว่า คุณจะเข้ามาบวช มีศรัทธาเท่าไรเราก็ไม่ว่า บวชยาวก็ยินดีต้อนรับ บวชสั้นก็ยินดีต้อนรับ
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 06-03-2015 เมื่อ 19:41
|