ดูแบบคำตอบเดียว
  #8  
เก่า 31-05-2018, 20:56
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 74,310 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรานั้น พระองค์ท่านบำเพ็ญประโยชน์ทั้งที่เป็นประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น ตลอดจนประโยชน์ทั้งสองส่วน ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ชนิดที่ไม่มีใครสามารถทำได้

อัตตัตถะ” คือ ประโยชน์ส่วนพระองค์นั้น พระองค์ท่านก็สามารถศึกษาและบำเพ็ญเพียรจนกระทั่งบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ปรัตถะ” คือ ประโยชน์ที่บำเพ็ญเพื่อผู้อื่นนั้น พระองค์ท่านก็เทศนาสั่งสอนสัตว์โลกอยู่ ๔๕ ปีเต็ม ๆ จนสามารถประดิษฐานพระพุทธศาสนาซึ่งเป็นของใหม่ จนกระทั่งมั่นคงสืบเนื่องมาจน ๒,๕๖๑ ปี

อุภยัตถะ” คือ ประโยชน์ทั้งสองส่วน ได้แก่ ทั้งประโยชน์ของพระองค์เองและประโยชน์ของผู้อื่น ก็คือการที่พระองค์ท่านได้บำเพ็ญกรณียกิจแล้ว ทำให้พุทธศาสนิกชนเกิดความเลื่อมใส กราบไหว้บูชาและประพฤติปฏิบัติตาม จนกระทั่งได้รับประโยชน์ ทั้งที่เป็นประโยชน์ในปัจจุบัน ที่เรียกว่า ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์” คือเป็นบุคคลที่มีศีล เมื่อมีศีลทรงตัว ก็ย่อมมีพื้นฐานของความดีอยู่กับตัวกับตน ไปไหนก็มีแต่ผู้ชื่นชม มีชื่อเสียงเกียรติยศว่าเป็นคนดี

ในส่วนของทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ คือประโยชน์ปัจจุบันแล้ว ก็ยังมีในส่วนของ สัมปรายิกัตถประโยชน์” คือประโยชน์ในอนาคต ซึ่งก็คือในส่วนของการที่ทรงสมาธิทรงตัวได้ เมื่อถึงเวลาสิ้นชีวิตลงก็ย่อมมีสุคติเป็นที่ไป ในขณะเดียวกันก็ทรงมี ปรมัตถประโยชน์” คือประโยชน์สูงสุด ได้แก่การก้าวล่วงจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย หยาดฝน : 31-05-2018 เมื่อ 21:07
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 35 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา