ดูแบบคำตอบเดียว
  #76  
เก่า 28-06-2010, 13:38
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,456
ได้ให้อนุโมทนา: 151,087
ได้รับอนุโมทนา 4,400,106 ครั้ง ใน 34,045 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

"พวกเราทำงานกันหามรุ่งหามค่ำ นอนตีสองตีสามประจำ ตีห้าต้องตื่นมาทำงานใหม่ มีเวลาพักผ่อนนิดเดียว ก็เลยมานึกว่า ในเรื่องของการปฏิบัติธรรมของพวกเรา ถ้าได้ผ่านช่วงที่ยากลำบาก ต่อสู้ชนิดเอาชีวิตเข้าแลกมา ถึงเวลาก็จะไม่มีเรื่องยากสำหรับเราเช่นกัน เพียงแต่ว่าเราทั้งหลายนี้ ถึงช่วงนั้นบ้างแล้วหรือยัง ?

ช่วงการปฏิบัติที่ว่าถ้าทำไม่ได้ก็ให้ตายไปเลย ถ้าเราทำอย่างนั้นได้เสียครั้งหนึ่ง ครั้งต่อไปจะไม่ยาก เพราะใช้กำลังใจเท่าเดิม ฉะนั้น..โบราณจึงได้กล่าวว่า ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ เพราะไม่มีอะไรที่จะลำบากไปกว่านั้นอีกแล้ว


ในเมื่อลำบากมาก่อน ถึงเวลาถ้าลำบากเท่าเดิมก็สบายสำหรับเรา แต่คนที่ไม่เคยลำบากมาก่อนอาจจะถึงตาย หรือไม่ก็เอ็ดตะโรลั่นไปเลย เพราะทนความลำบากไม่ไหว

ที่เล่าเรื่องพวกนี้ให้ฟัง สืบเนื่องจากว่า เพื่อนท่านสวดมนต์ทำวัตรทำกรรมฐาน อุทิศกุศลให้แม่ตลอด และเรื่องปู่จอมที่ไปสงครามเชียงตุง เดินนับไม้หมอนกลับประเทศไทย เพราะถึงเวลาถอนกำลังกลับ ไม่มีใครส่งรถไปรับ ก็ต้องเดินกลับมาเอง

เมื่อดูตัวอย่างของเพื่อนพระหรือปู่จอม จึงได้กล่าวมาถึงตนเองว่า มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่เป็นการทดแทนให้กับพ่อกับแม่ ขณะที่คนอีกจำนวนมากไม่ได้มีโอกาสนี้ แต่ว่าตอนที่ทำก็ไม่ได้รู้สึกว่าดีเลย ทำเพราะว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ทำเพราะเป็นภาระจำยอม เนื่องจากว่าสภาพของเราไปพอเหมาะพอดีกับตรงนั้นเอง"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-06-2010 เมื่อ 20:24
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 127 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา