ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 29-01-2011, 10:01
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,507
ได้ให้อนุโมทนา: 151,364
ได้รับอนุโมทนา 4,405,912 ครั้ง ใน 34,096 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐานวันอาทิตย์ที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๔

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่ถนัดของตน ไม่ว่าจะนั่งพับเพียบ นั่งขัดสมาธิหลวม นั่งขัดสมาธิแบบซ้อนขา หรือถ้าท่านใดถนัดจริง ๆ จะนั่งขัดสมาธิเพชรก็ได้ สำคัญที่ตั้งกายให้ตรง กำหนดสติไว้เฉพาะหน้า

เอาความรู้สึกทั้งหมดอยู่ที่ลมหายใจเข้าออกของเรา หายใจเข้ากำหนดรู้ตามเข้าไปพร้อมกับคำภาวนา หายใจออกกำหนดรู้ตามออกมาพร้อมกับคำภาวนา ให้เราสามารถรู้ตลอดว่า ลมหายใจเข้าที่จมูก..ผ่านกึ่งกลางอก..ไปสุดที่ท้อง หายใจออก ออกจากท้อง..ผ่านกึ่งกลางอก..ไปสุดที่ปลายจมูก พร้อมกับคำภาวนา

สำหรับวันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ วันนี้มีญาติโยมบางท่านสงสัยว่า เมื่อปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่งแล้ว รู้สึกเหมือนกับว่าเต็มแล้ว ไปต่อไม่ได้ ทำต่อไม่เป็น ควรจะแก้ไขอย่างไร ? ก็ได้ชี้แจงให้ทราบว่า เราจำเป็นต้องเปลี่ยนอิริยาบถ หรือบางทีถึงกับต้องเปลี่ยนสถานที่ไปเลย เพื่อให้จิตคลายออกมา แล้วจะได้ทำสมาธิต่อไปใหม่ได้อีก

อย่างที่วัดท่าขนุน อาตมาแนะนำให้พระทั้งหลายใช้วิธีทำความสะอาดวัด โดยการกวาดใบไม้บ้าง ถูศาลาบ้าง ซึ่งการทำความสะอาดวัดนั้น มีอานิสงส์มากมายหลายอย่างด้วยกัน

อันดับแรกก็คือ ได้เปลี่ยนอิริยาบถ จากการที่เราทำกรรมฐาน ไม่ว่าจะเป็นการนั่ง การยืน การเดิน การนอนก็ตาม ไปสู่อิริยาบถอื่นที่ไม่ซ้ำซาก

ประการต่อมาคือ การที่เราได้ทำความสะอาดวัด ทำให้วัดวาอารามสะอาดสะอ้าน ญาติโยมที่ไปมา เห็นแล้วเกิดความชื่นใจ วัดวาอารามที่สะอาด สว่าง สงบ โยมเห็นก็อยากจะเข้าวัดกันทั้งนั้น

ข้อต่อไป คือ อานิสงส์ที่จะพึงได้ ผู้ที่ทำความสะอาดนั้นจะมีอานิสงส์มาก อย่างเช่น พระนาคเสน ในอดีตชาติท่านเป็นพระ กวาดหยากเยื่อ และให้พระยามิลินท์ที่เป็นสามเณรนำหยากเยื่อนั้นไปทิ้ง

แต่พระยามิลินท์ที่เป็นสามเณรมัวแต่เล่นซุกซนอยู่ ไม่ได้นำหยากเยื่อไปทิ้งตามที่พระนาคเสนในชาตินั้นสั่ง พระนาคเสนจึงลงโทษตีด้วยด้ามไม้กวาด ทำให้สามเณรในอดีตของพระยามิลินท์นั้น ต้องร้องห่มร้องไห้นำเอาหยากเยื่อนั้นไปทิ้งน้ำ

แต่ครั้นเทขยะไปลงน้ำแล้ว เห็นสายน้ำไหลตามกันระลอกแล้วระลอกเล่า ไม่รู้จักหมดสิ้น ก็ตั้งจิตอธิษฐานว่า ด้วยอานิสงส์ที่เรานำเอาขยะมาทิ้งนี้ ขอให้เกิดใหม่ชาติใดก็ตาม ให้มีปัญญาไม่รู้จักหมดจักสิ้น เหมือนกับระลอกคลื่นที่ไหลตามกันไม่รู้จักจบสิ้นเช่นนี้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-01-2011 เมื่อ 12:17
สมาชิก 67 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา