ดูแบบคำตอบเดียว
  #27  
เก่า 14-09-2011, 16:44
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,510
ได้ให้อนุโมทนา: 151,404
ได้รับอนุโมทนา 4,405,961 ครั้ง ใน 34,100 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "หลักการใช้สาลิกาลิ้นทอง เขาบอกว่าให้พูดเพราะ ๆ พูดหวานขานเพราะไปไหนคนก็รัก พระพุทธเจ้าท่านว่าเป็นปิยวาจา

ในเรื่องคำพูด พระพุทธเจ้าท่านแบ่งเป็น ปุปผภาณี แปลว่า วาจาที่หอมเหมือนดอกไม้ มีแต่คนอยากฟัง มธุภาณี แปลว่า คำพูดหวานเหมือนน้ำผึ้ง คนฟังจะติดใจ คูถภาณี ก็คือ วาจาเหม็นเหมือนขี้ ประเภทปากไม่ดี คนไม่อยากเข้าใกล้

เพราะฉะนั้น..ในส่วนปิยวาจานี้ต้องเว้นคูถภาณี ปุปผภาณีหรือมธุภาณีถึงใช้ได้ คำว่า "ภาณี" แปลว่าพูด สุภาณี คือ พูดดี พูดเพราะ

เราได้ยินว่า "ภาณยักษ์ ภาณพระ" ภาณตัวนี้แหละคือภาณี คือพระพูดหรือยักษ์พูด ก็คือคาถา นะโม เม สัพพะพุทธานัง อุปปันนานัง มเหสินัง ข้าพเจ้าขอน้อมต่อบรรดาสมเด็จพระผู้มีพระภาค ผู้เป็นใหญ่ที่ได้อุบัติขึ้นแล้วในโลก

ตัณหังกโร มหาวีโร เมธังกโร มหายโส พระพุทธตัณหังกรสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีความกล้าอันยิ่งใหญ่ คือกล้าที่จะต่อสู้ฝ่าฟันกับกิเลส เมธังกโร มหายโส ฯ พระพุทธเจ้ามีนามว่า เมธังกร ผู้มียศอันยิ่งใหญ่ คือคนเขายกย่องให้เหนือผู้อื่น เพราะเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว

คาถานี้ผูกขึ้นโดยท้าวมหาราชทั้ง ๔ ท่านประชุมกันที่อาฏานาฏิยนครซึ่งเป็นเมืองหลวงของสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ว่ายักษ์และผีที่ไม่เคารพนับถือพระพุทธเจ้า ตลอดจนพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้นมีจำนวนมาก ถ้าหากไม่ออกคำสั่งห้ามไว้ ถึงเวลาอาจจะมีการทำร้ายพระที่เป็นพุทธสาวกได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 14-09-2011 เมื่อ 17:37
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 202 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา