ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 15-02-2020, 15:21
หยาดฝน's Avatar
หยาดฝน หยาดฝน is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Mar 2009
ข้อความ: 3,523
ได้ให้อนุโมทนา: 317
ได้รับอนุโมทนา 74,310 ครั้ง ใน 3,669 โพสต์
หยาดฝน is on a distinguished road
Default

หลังจากนั้นก็ทรงประกาศวิธีการที่จะให้เข้าถึงการละเว้นความชั่วทั้งปวง การกระทำความดีให้ถึงพร้อม และการชำระใจของตนให้ผ่องใสจากกิเลส ประกอบกันขึ้นมา ๖ ข้อ

๑. “อนูปวาโท” อย่าได้ว่าร้าย อย่าได้ติเตียนผู้อื่น ซึ่งอย่างในปัจจุบันนี้สื่อโซเชียลต่าง ๆ นั้น ทำให้เราเข้าไปคอมเมนท์ ให้ความเห็นต่าง ๆ ได้ง่าย จะเป็นเหตุให้เราว่ากล่าว ติเตียน ว่าใส่ร้ายผู้อื่นเขาหรือไม่ ก็เป็นสิ่งที่พุทธบริษัททั้งหลายจะต้องระมัดระวังตนเองให้ดี

๒. “อนูปฆาโต” ไม่ให้เข่นฆ่าทำร้ายผู้อื่น เพราะว่าเป็นที่มาแห่งการเบียดเบียน นำไปสู่ความเกลียดแค้นชิงชังกัน

๓. “ปาฏิโมกฺเข จ สํวโร” คือให้สำรวมรักษาศีลของตนเองให้บริสุทธิ์บริบูรณ์ บุคคลทั่วไปรักษาศีล ๕ อุบาสกอุบาสิการักษาศีล ๘ ถ้าหากเป็นสามเณรก็รักษาศีล ๑๐ พระภิกษุรักษาศีล ๒๒๗ เป็นต้น ระมัดระวังรักษา อย่าละเมิดศีลด้วยตนเอง อย่ายุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นละเมิดศีล และอย่ายินดีเมื่อเห็นผู้อื่นละเมิดศีล

๔. “มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ” แปลว่า เป็นบุคคลผู้รู้ประมาณในการบริโภค ไม่ใช่กินล้นกินเกิน เราจะเห็นว่าพระปฏิบัติส่วนใหญ่แล้วฉันแค่มื้อเดียว พอที่จะยังร่างกายนี้ให้มีกำลังปฏิบัติธรรมได้ ถ้าหากว่าเป็นพระฝ่ายคันถธุระ ประกอบหน้าที่การงาน ก็ฉันแค่ ๒ มื้อ ดังนั้นในส่วนนี้ถ้าเรารู้จักประมาณ โรคภัยไข้เจ็บก็จะมีน้อย ร่างกายไม่หนักไปด้วยสารอาหาร ทำให้เลือดลมปลอดโปร่ง สามารถทรงสมาธิได้ง่าย

ข้อที่ห้า ท่านบอกว่า ให้รู้จักพอใจในความสงบ ในสถานที่อันวิเวก ก็แปลว่า เราต้องรู้จักปลีกตัวออกจากหมู่ ก็คือ ปนฺตญฺจ สยนาสนํ ท่านบอกว่า ให้อยู่อาศัยในที่นั่งที่นอนอันสงัด ไม่เกลื่อนกล่นด้วยผู้คนที่มารบกวน ซึ่งพระนักปฏิบัติอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่ก็เข้าป่าไปเลยก็มี

ข้อสุดท้าย “อธิจิตฺเต จ อาโยโค” ให้หมั่นประกอบในการทำจิตให้สงบ เป็นสมาธิ โดยเฉพาะเป็นอัปปนาสมาธิ ตั้งแต่ปฐมฌานละเอียดเป็นต้นไป เพื่อที่จะให้มีกำลังในการที่จะสามารถตัดกิเลสได้
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 21 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ หยาดฝน ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา