ดูแบบคำตอบเดียว
  #1  
เก่า 27-03-2011, 13:35
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,610
ได้ให้อนุโมทนา: 151,798
ได้รับอนุโมทนา 4,413,111 ครั้ง ใน 34,200 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default เทศน์ช่วงทำกรรมฐาน วันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๔

ให้ทุกคนนั่งในท่าที่สบายของตน แล้วกำหนดความรู้สึกทั้งหมดอยู่ที่ลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..กำหนดรู้ตามลมหายใจเข้าไปจนสุด หายใจออก..กำหนดรู้ตามลมหายใจออกมาจนสุด หายใจเข้า..กำหนดรู้ลมพร้อมกับคำภาวนาที่เราถนัด หายใจออก..กำหนดรู้ลมพร้อมกับคำภาวนาที่เราถนัด

วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๕๔ เป็นการปฏิบัติกรรมฐานวันสุดท้ายของต้นเดือนมีนาคม และเป็นครั้งสุดท้ายของบ้านอนุสาวรีย์แห่งนี้ ซึ่งตลอดระยะเวลา ๑๘ ปีที่ผ่านมา อาตมภาพนั่งรับสังฆทาน ตอบปัญหาธรรม ตลอดจนกระทั่งสอนกรรมฐานอยู่ที่นี้ ถ้าญาติโยมทั้งหลายถามว่า เมื่ออยู่ ๆ จะต้องจากไปอยู่ที่ใหม่ มีความอาลัยอาวรณ์ต่อที่เก่าบ้างหรือไม่? ก็ขอบอกจากใจจริงว่า ไม่มีแม้แต่ความคิดสักนิดเดียวที่จะอาลัยต่อสถานที่แห่งนี้

อย่างที่เคยบอกไปแล้วว่า ถ้าแม้กระทั่งวัดท่าซุง ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ที่เอื้อต่อการปฏิบัติมากที่สุด ดีที่สุดเท่าที่จะมีได้ อาตมายังสามารถที่จะทิ้งมาได้ สถานที่อื่นที่จะทิ้งไม่ได้นั้นไม่มี

ก็ขอให้ญาติโยมทั้งหลาย เมื่อภาวนาจนกำลังใจทรงตัวแล้ว ให้พิจารณาดูอารมณ์ใจของเราว่า ยังมีความห่วงใย มีความอาลัยอาวรณ์ต่อสิ่งต่าง ๆ บ้างหรือไม่ ? อย่างเช่นว่า คนที่เรารัก ของที่เรารัก ทรัพย์สมบัติที่เราหวงแหน เป็นต้น ถ้าหากว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ยังมีอยู่ ท่านต้องรีบขับไล่ให้พ้นไปจากจิตใจของตนไปโดยเร็วที่สุด เพราะว่าจะเป็นเครื่องร้อยรัดเราให้ติดอยู่ในวัฏสงสาร ไม่สามารถที่จะหลุดพ้นไปได้

การที่เราหลุดพ้นได้นั้น ทางด้านภาษาบาลีได้ใช้ศัพท์หลายต่อหลายคำด้วยกัน เพื่อแสดงออกซึ่งบุคคลที่สามารถชำระจิตใจให้ผ่องใสจากกิเลสทั้งปวง จนสามารถที่จะหลุดพ้นไปได้

บุคคลที่จิตใจผ่องใสจากกิเลสทั้งปวงนั้น ท่านใช้ศัพท์แรกว่า มทนิมฺมทโน แปลว่า ย่ำยีเสียซึ่งความเมา ความเมาในที่นี้คือเมาในกิเลส เมาในตัณหา ในอุปาทาน ในอกุศลกรรมต่าง ๆ นั่นเอง

ซึ่งถ้าหากว่าเป็นสมัยที่หลวงปู่แหวนท่านยังมีชีวิตอยู่ หลวงปู่แหวนท่านจะบอกเสมอว่า "ต้องปฏิบัติให้เป็นธรรมโมนะ..อย่าให้เป็นธรรมเมา" ถ้าปฏิบัติเป็นธรรมโม โอกาสที่เราหลุดพ้นก็จะมี แต่ถ้าปฏิบัติเป็นธรรมเมา ก็จะโดนร้อยรัดติดอยู่กับวัฏสงสารต่อไป
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 28-03-2011 เมื่อ 18:32
สมาชิก 61 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา