คำสอนสมเด็จองค์ปฐม
ภาพจักชัดหรือไม่ชัดไม่สำคัญ (๑)
ขอให้ใช้อารมณ์ปักตรงต่อพระนิพพานก็แล้วกัน
ร่างกายยิ่งเหนื่อยมากเท่าไหร่ ก็สมควรจักยิ่งซ้อมตาย ทิ้งร่างกายมากขึ้นเท่านั้น
อารมณ์จับภาพพระนิพพานแม้จักไม่แจ่มใสตามปกติ
ก็จงพยายามกำหนดจิตขึ้นมาอยู่บนวิมานแห่งนี้
ภาพจักชัดหรือไม่ชัดไม่สำคัญ ขอให้ใช้อารมณ์ปักตรงต่อพระนิพพานก็แล้วกัน
กิจการงานที่เจ้าทำ ก็ถือได้ว่าเป็นกิจพระพุทธศาสนา
จงมีความภูมิใจหากร่างกายมันจักตายลง ในขณะเหน็ดเหนื่อยในหน้าที่การงานนี้
ก็ถือว่าเพื่อพระพุทธศาสนา เป็นความดีที่เจ้าได้ทำอยู่ ตายก็ตายอยู่กับความดี
จักตายครั้งสุดท้ายเพื่อพระนิพพานหรือเพื่อความไม่เกิดไม่ดับอีก
อย่าทำงานเหนื่อยแล้วทำจิตให้บ่น
ทำเช่นนั้นเจ้าจักขาดทุน การบ่นเป็นอารมณ์ปฏิฆะ จัดเป็นอารมณ์ไม่พอใจ
จงดูและกำหนดรู้ให้ดี ๆ จึงจักละซึ่งอารมณ์กามฉันทะและปฏิฆะได้
พยายามละอารมณ์บ่นให้ได้มากที่สุด
ไม่ว่าจักเป็นมโนกรรมหรือวจีกรรม บ่นเมื่อไหร่ถือว่าเจ้าพ่ายแพ้ต่ออารมณ์ปฏิฆะเมื่อนั้น
เวลานี้รบกับอารมณ์ จักต้องตั้งใจต่อสู้กับอารมณ์ของจิตให้ดี ๆ
ไม่ใช่สู้แบบไม่รู้จักหน้าค่าตาของศัตรู จักถูกเขาเอาดาบฟันตายอยู่รอมร่อแล้ว
ยังมองไม่เห็นภัยของศัตรูอีก
แยกแยะอารมณ์ให้ถูกตลอดวันตลอดเวลาอย่าเผลอ
จักบอกว่าไม่รู้ไม่ได้ อารมณ์ของตน ตนเองไม่รู้ แล้วจักให้ใครที่ไหนช่วยรู้ได้
เมื่อรู้เองไม่ได้ ก็แก้ไขอารมณ์จิตของตนเองไม่ได้เหมือนกัน
ชาตินี้ทั้งชาติเจ้าอย่าหวังได้พระอนาคามีผลเลย
ก็ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป อย่างนี้จักดีหรือ
จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๖
รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน