ถาม : ได้ทุนไปเรียนที่เมืองจีน ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วถ้าจะไปจีน ช่วยแนะนำคนรุ่นหลังหลังเขาด้วยว่าให้ไปเซียะเหมิน (厦门市) ดีที่สุด เพราะว่าสำเนียงชัดเจน สำเนียงอื่นโดยเฉพาะปักกิ่งนี่ห่วยแตกที่สุดเหมือนกัน แล้วก็ต้องขยัน โดยเฉพาะในเรื่องการจำ ตัวหนังสือจีนเป็นภาพมาก่อน ในเมื่อเป็นภาพแต่ละภาพ ถ้าเราตั้งใจดูบางทีจะมองเห็นเลยว่าเขาตั้งใจเขียนคำว่าอะไร อย่างคำว่า เฉีย ที่แปลว่า ช้าง ที่จีนกลางว่า เฉี่ยง ถ้าเราดูดี ๆ จะเห็นมีงาช้างอยู่ ๒ อัน คือ มาจากอักษรภาพก่อน ถ้าหากว่าเราจับจุดได้ เราจะรู้ว่าตัวนี้คืออะไร
สำคัญที่สุดคืออย่าทิ้งสมาธิเป็นอันขาด ทิ้งเมื่อไรแล้วจะท้อ ไปแล้วก็ขยันให้เขาเห็นศักยภาพของเราบ้าง เราสู้เด็กจีนไม่ได้หรอก เด็กจีนเรียนเหมือนคนบ้า ของเราในสายตาเขาก็คือเรียนไปเล่นไป ของเขานี่เขาทุ่มทั้งชีวิตเลย เพราะว่าประชากรจีนมหาศาลเป็นพันล้าน คู่แข่งเขามีเยอะ สอบเข้าแต่ละทีนี่ประมาณหนึ่งต่อแปดร้อย หนึ่งต่อพัน ของเรานี่ประเภทหนึ่งต่อหนึ่ง หนึ่งต่อสองก็แย่แล้ว..ใช่ไหม ?
เพราะฉะนั้น...ขึ้นอยู่กับอิทธิบาท ๔ ถ้าเราเต็มใจไปแล้วก็ต้องเอา โดยเฉพาะภาษานี่ต้องเอาให้ได้ ไปแล้วอย่าพยายามพูดไทย ให้ใช้ภาษาจีนเป็นหลัก หน้าด้านไว้ก่อน พูดไปเลย ผิดถูกช่างมัน พยายามสื่อสารเข้าไว้ คำไหนไม่ได้ก็ถามเขา โดยเฉพาะเวลาเข้าร้านค้า เขาเห็นเราเป็นเด็กต่างชาติเขาจะเอ็นดู บรรดาอาอี๋อาสูถึงเวลาเขาก็จะช่วย
พยายามให้เต็มที่ อย่าลืมคาถาท่านปู่พระอินทร์ก็แล้วกัน ช่วยได้ทุกสถานการณ์เลย หลวงพ่อเรียนหนังสือไม่เคยใช้เวลาตามหลักสูตรเขาเลย ปริญญาตรี ๒ ปีครึ่ง ปริญญาโท ๑ ปีกับ ๑ เดือน ปริญญาเอกขนาดเขาบังคับว่าต้อง ๓ ปีถึงให้สอบ ปรากฏว่า ๒ ปีครึ่ง เพราะว่ารุ่นพี่ไม่ผ่านก็เลยต้องไปแทน ใช้ตัวสมาธิบวกกับคาถาท่านปู่พระอินทร์ไว้ สู้ได้ทุกที่แหละ ไป...ขยันไว้ อย่าให้เสียชื่อหลวงปู่ฤๅษีของเรา
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-07-2018 เมื่อ 08:47
|