ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 07-04-2009, 23:05
ป้านุช's Avatar
ป้านุช ป้านุช is offline
ผู้สนับสนุนเว็บวัดท่าขนุน - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
สถานที่: Bangkok Thailand
ข้อความ: 866
ได้ให้อนุโมทนา: 21,453
ได้รับอนุโมทนา 109,675 ครั้ง ใน 2,785 โพสต์
ป้านุช is on a distinguished road
Default

เรามาดู(อ่าน) พระเจ้ามิลินท์ ( ม )และ พระนาคเสน (น ) สนทนาธรรมกัน

สังสารวัฏและการเวียนว่ายตายเกิด

ม.ตรัสถามว่า ดูก่อนพระนาคเสน สังสารวัฏได้แก่อะไร
น.ขอถวายพระพร ได้แก่การเวียนเกิดเวียนตาย

ม.พระคุณเจ้าจงหาตัวอย่างมาเปรียบ
น.เหมือนชาวสวนปลูกมะม่วงไว้ ครั้นมะม่วงออกผลก็เก็บมารับประทาน เสร็จแล้วก็เอาเมล็ดนั้นเพาะปลูกใหม่ ถึงคราวเกิดผล ก็นำมารับประทาน
แล้วปลูกใหม่ต่อ ๆ ไปอีก สังสารวัฏก็มีอาการหมุนเวียนเช่นนั้น คือนับแต่เราเกิดมาเป็นนามรูป เราก็ตั้งต้นเพาะความดีความชั่ว เป็นตัวบุญ ตัวบาปขึ้นเป็นเหตุ
แล้วเราก็ต้องรับผลของความดีความชั่วนั้น ซึ่งจะช้าหรือเร็วขึ้นกับอำนาจบาปบุญ
ทั้งนี้ ผลที่เราได้รับอาจจูงใจให้เราเพาะเหตุต่อไปอีก เหมือนคนรับประทานผลมะม่วง แล้วก็นำเมล็ดไปเพาะเป็นต้น หมุนเวียนต่อไปไม่รู้จบสิ้น


ม.อะไรเป็นเหตุให้นามรูปต้องเกิดต่อไปอีกนาน
น.เหตุที่ทำให้นามรูปเกิดต่อไปอีกนานก็คือ ความไม่รู้แจ้งเห็นจริงในอริยสัจ ๔ กล่าวคือ ไม่รู้ว่าอะไรเป็นทุกข์ อะไรเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ อะไรเป็นความดับทุกข์
อะไรเป็นทางให้ถึงความดับทุกข์ แม้จะรู้สิ่งเหล่านี้โดย พิจารณาเห็นในชั่วขณะหนึ่ง ๆ ก็ยังเรียกว่าไม่รู้จริง เพราะความรู้นั้นมิได้ประจำจิตอยู่ตลอดเวลา


เมื่อไม่รู้แจ้งในอริยสัจ ๔ คนสัตว์ทั้งหลายจึงทำบุญและบาป เป็นเหตุให้เกิดปฏิสนธิวิญญาณ ซึ่งเปรียบเหมือนรากแก้วของต้นไม้ ทำให้เกิดนามรูป
ซึ่งแตกกิ่งก้านเป็น ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ทำหน้าที่เป็นประตูเปิดรับอารมณ์ ๖

นอกจากนี้ เมื่อไม่รู้แจ้งในอริยสัจ ๔ ก็ให้ยึดสิ่งต่างๆเอาว่าเป็นตัวเป็นตน เป็นเราเป็นเขา เมื่อประสบสิ่งชอบใจ รู้สึกยินดี ก็เกิดความติดใจ เมื่อประสบสิ่งแสลงใจ รู้สึกทุกข์
ก็เกิดความปรารถนาจะหลีกหนีไปให้พ้น จึงเป็นเหตุให้เกิดการดิ้นรนแสวงหา รวมทั้งยึดถือในอุบายที่จะช่วยให้ตนสมประสงค์ในการได้มาหรือหลีกหนีไป
ก่อเป็นกุศลและอกุศลหนุนเนื่องให้เกิดเป็นนามรูปต่อไปอีก

ขอถวายพระพร ตราบเท่าที่ยังไม่รู้แจ้งในอริยสัจ ๔ ตราบนั้นนามรูปก็ยังคงปรากฏมีอยู่เช่นนี้ โดยการเกิดดับ ๆ ของนามรูปที่ล่วง ๆ มาแล้วนั้น นานจนเบื้องต้นไม่ปรากฏ


ม.ความยาวนานของการเวียนเกิดเวียนตายเท่ากันหมด ในหมู่คนและสัตว์ทั้งหลายหรือ
น.บางพวกก็นาน บางพวกก็ไม่นาน

ม.พวกไหนนาน พวกไหนไม่นาน
น.ผู้มีกิเลสคือเครื่องทำให้ใจหมองอยู่ ก็จะต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไปอีกนาน ส่วนท่านที่บั่นทอนกิเลสซึ่งเป็นเหตุทำให้ยืดยาวนั้นลงได้บ้าง
ก็ย่นเวลาเกิดเวลาตายข้างหน้าให้สั้นเข้าได้


ม.ช่างลึกล้ำจริง

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ป้านุช : 08-04-2009 เมื่อ 17:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 25 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ ป้านุช ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา