นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต ติ.
ณ โอกาสบัดนี้ อาตมภาพรับหน้าที่วิสัชนาในขันติกถา เพื่อเป็นเครื่องโสรจสรงองคศรัทธาบารมี ของบรรดาท่านทานิสสราธนบดีทั้งหลาย ที่พร้อมใจกันมาบำเพ็ญกุศลเนื่องในวันมาฆบูชา ณ วัดท่าขนุนแห่งนี้
ญาติโยมทั้งหลาย วันมาฆบูชานี้จัดเป็นวันที่สำคัญยิ่งวันหนึ่งในพระพุทธศาสนา เนื่องจากว่าเป็นวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ประกาศพระโอวาทปาติโมกข์
คำว่าโอวาทปาติโมกข์นั้น ก็คือโอวาทอันเป็นที่รวมหลักคำสอนของพระองค์ท่าน ทั้งในส่วนของ
อุดมการณ์ หลักการ และ
วิธีการในพระพุทธศาสนา เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ทั้งหลายเมื่อออกไปประกาศพระศาสนาแล้ว จะได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน
พระองค์ได้ทรงประกาศพระพุทธพจน์บทพระบาลี ดังที่ได้ยกขึ้นมาในเบื้องต้นว่า
ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา เป็นต้น ซึ่งอาตมภาพขอแยกออกให้เห็นง่าย ๆ ว่า ในส่วนแรกนั้นคือ
อุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา พระองค์ประกาศว่า
ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา ความอดทนอดกลั้นนั้นเป็นตบะ (เครื่องเผากิเลส) อย่างยิ่งของนักปราชญ์
นิพพานัง ปะระมัง วะทันติ พุทธา พระพุทธเจ้าซึ่งเป็นผู้รู้ทั้งหลายนั้น ต่างก็กล่าวถึงพระนิพพานว่า เป็นที่สุดแห่งธรรมด้วยกันทั้งสิ้น
นะ หิ ปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี ผู้ใดยังเข่นฆ่ากำจัดผู้อื่นอยู่ พระองค์ท่านไม่ทรงเรียกว่าผู้นั้นว่าบรรพชิต (ผู้ชนะตนเอง)
สะมะโณ โหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต ผู้ใดยังเบียดเบียนผู้อื่นอยู่ พระองค์ท่านไม่ทรงเรียกผู้นั้นว่าเป็นสมณะ (ผู้สงบและพ้นจากบาปแล้ว) เลย
เหล่านี้แหละเป็น
อุดมการณ์ของพระพุทธศาสนา ถือว่าเป็นเป้าหมายสูงสุด เป็นแนวทางของพระศาสนาของเรา ท่านทั้งหลายจะเห็นได้ว่าพระพุทธเจ้านั้น ตรัสถึงขันติคือความอดทนอดกลั้นเป็นอันดับแรก
ก็แสดงว่า การจะประสบความสำเร็จตามหลักของพระพุทธศาสนานั้น ไม่ว่าจะเป็นทางโลกก็ดี ทางธรรมก็ดี ท่านทั้งหลายต้องมีความอดทน อดกลั้น มาก่อนสิ่งใดทั้งหมด