ดูแบบคำตอบเดียว
  #124  
เก่า 24-07-2019, 17:51
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,488
ได้ให้อนุโมทนา: 151,148
ได้รับอนุโมทนา 4,405,388 ครั้ง ใน 34,077 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

“ที่ว่าพูดจนอดกินก็คือ สมัยที่อยู่เกาะพระฤๅษี ออกบิณฑบาตทุกเช้า เดินขึ้นเขาไปห้ากิโลฯ กว่า..! ก็คือเข้าป่าลึกไปดี ๆ นี่เอง พยายามซักซ้อมมโนมยิทธิไว้ทุกวันตามที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านสั่ง กำหนดใจดูว่าวันนี้ใครใส่บาตรเป็นคนแรก ผู้หญิงหรือผู้ชาย หน้าตาเป็นอย่างไร ใส่เสื้อผ้าสีสันแบบไหน เดินไปเกือบจะถึงเขตหมู่บ้านเขาแล้ว ห่างไม่ถึงร้อยเมตร มีผู้หญิงคนหนึ่งใส่ผ้าเก่า ๆ ดักใส่บาตรอยู่เป็นคนแรก

ด้วยความเคยชิน ถึงเวลาเปิดบาตรแล้วก้มหน้า เพราะว่าพระเขาห้ามมอง ให้มองดูได้แต่ในบาตร ปรากฏว่าตอนก้มมองเห็นผ้าสวย ๆ แลบซ้อนผ้าเก่าขึ้นมา ก็เลยปิดบาตร บอกว่า “เดี๋ยว..อย่าเพิ่งใส่บาตร คุยกันก่อน ถามจริง ๆ ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน ?” เขาก็เลยแสดงตนให้ดู ปรากฏว่าเป็นรุกขเทวดาอยู่แถวนั้น แต่บุญน้อยมาก จะมาทำบุญเพิ่มบุญให้ตัวเอง ก็ดูรูปร่างหน้าตาสะสวย แต่ว่าเนื้อหนังเหมือนของพวกเรา แสดงว่าบุญน้อยจริง ๆ เพราะว่าพวกนางฟ้าเทวดายิ่งบุญมากเท่าไร เนื้อจะใสมากเท่านั้น นั่นขนาดจน ๆ นะ แม่เจ้าประคุณใส่เข็มขัดทองเส้นเกือบเท่าฝ่ามือ..!

ก็เลยบอกว่า ถ้าอย่างนั้นผลบุญทั้งหมดที่เราทำมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ ขออุทิศให้แก่เธอ ขอให้เธอโมทนา เราจะได้รับประโยชน์ความสุขเท่าไร ขอให้เธอได้รับด้วย แม่เจ้าประคุณก็โมทนาสาธุ แทบจะกลายเป็นแก้วทั้งตัว แล้วก็ไปเลย..! พอได้บุญแล้วดันไม่ใส่บาตร ตั้งแต่นั้นมาก็จำเลยว่า ต้องใส่บาตรเสียก่อนแล้วค่อยให้เขา ไม่อย่างนั้นไม่ให้หรอก..!”
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-07-2019 เมื่อ 03:30
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 128 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา