พระอาจารย์กล่าวว่า "อะไรจ๊ะ แอบถ่ายอีกแล้ว ? ... (หัวเราะ)... แต่ละคนบางทีก็ถ่ายไปเรื่อย ด้วยความภูมิอกภูมิใจในครูบาอาจารย์ตัวเอง พอโพสต์ลงเฟซบุ๊กแล้วก็มีคนแสดงความคิดเห็นด้วยการด่าทันที คือบางทีเห็นอาตมากำลังถางหญ้า ขุดดิน กวาดพื้นอยู่ แหม...ด้วยความปลื้มใจเห็นอาจารย์ทำงาน เลยถ่ายรูปไปลงเฟซบุ๊ก บางทีกำลังปีนอยู่บนนั่งร้านอย่างนี้ บางคนก็เข้าแสดงความเห็น “พระอะไรวะ..? ไม่สำรวมเลย..!” จะได้รู้ว่าสิ่งที่เราภูมิใจ บางทีก็ไม่ใช่คนอื่นเขาจะเห็นด้วย โดยเฉพาะเรื่องของศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จะโพสต์รูปอะไรก็ตาม ต้องระมัดระวังให้มากไว้
มีพระอยู่รูปหนึ่งเป็นพระมหาประโยค ๙ ด้วย โพสต์รูปตัวเองลงเฟซบุ๊ก ปรากฏมีคนไปแสดงความเห็นว่า “จิ๊กโก๋หรือว่าพระ ?” เพราะว่าท่านใส่แว่นตาดำ ท่านก็พยายามอธิบายว่าแว่นของท่านไม่ใช่สีดำ แต่เป็นแว่นที่ปรับตามความเข้มของแสง แล้วท่านเป็นโรคตาอยู่ โดนแสงไม่ได้ อาตมาว่าเสียเวลาไปอธิบาย ถ้าไม่โพสต์เสียตั้งแต่แรกก็หมดเรื่องไปแล้ว ดังนั้น...เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก คนเขามองคนละด้านกัน
อย่างที่โบราณเขาบอกว่า “สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม อีกคนหนึ่งตาแหลมคม มองเห็นดาวอยู่พราวพราย” หรือที่ฝรั่งเขาบอกว่า All that glitters is not gold อะไรที่วาว ๆ ไม่แน่ว่าจะเป็นทอง ในเรื่องพวกนี้เราที่ถ่ายรูปไปเรื่อยก็ไม่แน่หรอก ท่านเจ้าคุณอาจารย์พระราชปัญญารังษีให้ลูกศิษย์มานวดขาให้ ด้วยความที่ภูมิใจลูกศิษย์ก็เซลฟี่ถ่ายรูปตัวเองกำลังนวดขาไปลงเฟซบุ๊ก คนเข้ามาโพสต์ทันทีเลยว่า “โคตรสบายเลยนะ..!” เราจะเห็นว่าเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่ว่าคนเขาจะเห็นด้วยกับเราทั้งหมด
ปัจจุบันนี้ศาสนาของเราเป็นที่โจมตีของบุคคล ที่ทั้งรู้เท่าไม่ถึงการณ์และทั้งตั้งใจทำลายพระศาสนา ในเมื่อเป็นเช่นนั้นจึงต้องระมัดระวังเป็นอย่างสูง ไม่ใช่ว่าถึงเวลาก็ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย โพสต์ไปเรื่อยเปื่อย ที่อาตมาเบื่อที่สุดก็คือพอขึ้นแท็กซี่ อีก ๒ วินาทีมีภาพอาตมาอยู่บนแท็กซี่พร้อมกับทะเบียนรถเรียบร้อย รอมือปืนตามยิงกบาลได้เลย อยากจะถามว่า “มึงจะถ่ายไปลงทำเหี้..อะไร...!”
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เถรี : 10-04-2016 เมื่อ 20:36
|