จะว่าไปแล้วเรื่องของการปฏิบัตินั้น เหมือนกับการขึ้นที่สูง ถ้ามีสิ่งให้เรายึดเกาะก็เป็นการปลอดภัยแน่นอนกว่า ถ้าไม่มีสิ่งให้เรายึดเกาะ ท้ายที่สุดเราอาจจะพลาด แล้วก็ร่วงหล่นลงมา การที่เราเกาะราวบันไดเพื่อขึ้นไปสู่ห้องชั้นบน ถึงเวลาเราไปถึงห้องแล้ว ไม่มีแม้แต่คนเดียวที่แบกราวบันไดไปด้วย หลายคนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำไปว่า ตนเองปล่อยราวบันไดตอนไหน ลักษณะการปฏิบัติธรรมก็เช่นเดียวกันว่า ถ้าดีถึงที่สุดก็จะปล่อยดีไปเอง แล้วเราก็ก้าวล่วงเข้าสู่พระนิพพานตามที่เราต้องการ
หลายคนก็ว่าเรื่องของการทำบุญแล้วอธิษฐานเป็นความโลภ ประพฤติปฏิบัติผิด ไม่ว่าจะทำบุญหรือทำบาป เราต้องการหรือไม่ต้องการ อธิษฐานหรือไม่อธิษฐาน ผลนั้นเกิดแน่ ๆ เพียงแต่ว่าการอธิษฐานเป็นเรื่องของคนมีปัญญา เพราะระบุชัดไปเลยว่าต้องให้ผลเกิดเมื่อไร ให้ผลเกิดอย่างไร ไม่ใช่ว่าอยากจะกินข้าวตอนนี้ อีก ๓ วันข้าวค่อยมาถึง ก็หิวไส้แขวนกันพอดี ดังนั้น..การที่เราระบุไปว่าต้องการให้เกิดผลอย่างไร ให้เกิดผลเมื่อไร จึงเป็นเรื่องของคนที่มีปัญญาเท่านั้น
เรื่องของบุคคลที่จะใช้อธิษฐานบารมีเป็นต้องเป็นอุปบารมีขั้นปลายขึ้นไป บุคคลที่บารมีต่ำกว่านั้นไม่สามารถจะใช้อธิษฐานบารมีได้ หรือเข้าใจผิดไปอีกต่างหาก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-08-2014 เมื่อ 16:25
|