"แต่จุดที่ท่านเล่าให้ฟังก็คือ ระหว่างที่ท่านกลิ้งลงมา ท่านรู้ทุกขั้นตอนเลยว่าเกิดช้า ๆ แบบนี้ ก็เลยพยายามจะพลิกตัวไม่ให้หัวฟาดพื้น นั่นคือลักษณะของกำลังใจที่เราฝึก พอถึงเวลาฉุกเฉินแล้วจะรวมตัว เวลากำลังใจรวมตัว ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเป็นปกติ แต่สภาพจิตแหลมคมว่องไวมาก เลยทำให้เห็นว่าทุกอย่างช้ามาก สามารถแก้ไขทัน ซึ่งลักษณะอย่างนี้ก็คือแบบเดียวกับที่กิเลสเกิดเร็วมาก ถ้าจิตของเราไม่เร็วพอก็จะต่อต้านกิเลสไม่ทัน
ตรงส่วนนี้เป็นส่วนที่ต้องเรียกว่าน่าชมเชย เพราะว่าถึงเวลาท่านกำลังใจทรงตัวได้ แต่คราวนี้พอท่านร่วงโครมลงไปกับพื้น แทนที่จะคิดเรื่องอื่น เรื่องแรกที่ท่านคิดก็คือ Bluetooth อยู่ไหน ? หนีบหูอยู่ โทรศัพท์อยู่ในกระเป๋ารู้แน่นอน แต่ Bluetooth หล่น ก็ควานหาก่อน แหม...ให้ตายเถอะ...! ถ้าเอ็งตายตอนนั้นจะเกิดเป็นตัวอะไรวะ ? จะไปเป็นเล็นเกาะ Bluetooth หรือเปล่าก็ไม่รู้ ?
เสร็จแล้วท่านก็ลุกขึ้นมาคลำตัวเองเห็นว่าเลือดออก แล้วก็ลองจับแข้งจับขาดู ปกติดียังลุกยืนได้ เออ...เบาใจ ถ้าอย่างนั้นก็ลง คราวนี้ฉลาดขึ้น จับราวลงด้านข้าง แต่ปรากฏว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ลื่นอีกทีหนึ่ง แล้วคราวนี้ลื่นทั้ง ๆ ที่ท่านจับราวไว้ มือท่านรับน้ำหนักตัวไม่ได้ ตัวก็โดนกระชากลงไป สองมือก็รูดราวลงไปอีก คราวนี้ท่านลงไปหลายขั้นมากเลยเพราะว่าเป็นช่วงสูงชัน ท่านก็เลยตัดสินใจแหย่ขาไปขัดข้างราวบันไดไว้ โอ้พระเจ้า...ดีที่ขาไม่หัก คราวนี้พอท่านแหย่ขาไปขัด ตัวท่านก็หมุนกระเด็นจะตกออกไปข้างนอก เพราะว่าน้ำหนักตัวกระชาก ยังดีว่าท่านหยุดตัวเองอยู่ได้"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 12-06-2018 เมื่อ 17:25
|