พระอาจารย์กล่าวว่า "เด็กรุ่นหลัง ๆ ไม่รู้ว่าทำไมพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย จึงทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับในหลวง ที่เด็กรุ่นใหม่ ๆ ไม่ให้ความสำคัญกับในหลวง เพราะว่ารุ่นของเขาไม่เคยผ่านความทุกข์ยากลำบากมา เหมือนกับรุ่นพ่อรุ่นแม่
ถ้าเขาได้ผ่านช่วงสงครามโลก สงครามมหาเอเชียบูรพา เขาจะรู้ว่าในระหว่างประเทศชาติวิกฤตขนาดนั้น ศูนย์รวมใจเพียงหนึ่งเดียวของเราคือในหลวง ในระหว่างที่ประเทศชาติเกิดความแตกแยกทางความคิด ฝ่ายหนึ่งเข้าป่าจับอาวุธ อีกฝ่ายหนึ่งอยู่ในเมือง พระองค์ท่านทำจนกระทั่งเขาเปลี่ยนความคิด จากศัตรูกลับมาร่วมกันพัฒนาประเทศชาติได้
ในช่วงที่เผด็จการทหารครองเมือง ถึงเวลาชาวบ้านและนักศึกษาประท้วงก็โดนปราบโดนฆ่า พระองค์ท่านก็สามารถระงับเหตุทั้งหลายเหล่านั้นลงได้
บรรดาชาวเขาที่ปลูกฝิ่นเป็นอาชีพเพราะว่าทำเงินให้กับเขาได้ เนื่องจากว่าปลูกมาก็มีคนซื้อ พระองค์ท่านก็ไปเปลี่ยนเป็นการปลูกพืชผลในพื้นที่สูง จนกระทั่งมีฐานะมั่นคง มีโครงการพระราชดำริต่าง ๆ ออกมา ทำให้พวกเขาอยู่กินกันได้โดยไม่ต้องพึ่งพาอาศัยยาเสพติด
ดังนั้น..คนรุ่นนั้นจะเห็นชัด ๆ ว่าในหลวงสร้างคุณประโยชน์มหาศาลเพื่อประเทศชาติและประชาชนขนาดไหน ก็จะเกิดความเคารพขึ้นมาเอง เกิดความรักขึ้นมาเอง โดยไม่ต้องเสียเวลาไปปลุกใจ ไม่ต้องเสียเวลาไปเรียกร้อง แต่ว่าเด็กรุ่นใหม่ ๆ เขาไม่ได้ผ่านสภาวะประเทศชาติที่เป็นอย่างนั้นมาก่อน ต่อให้เกิดปี ๒๕๓๕ ที่ประเทศชาติเกิดวิกฤตครั้งสุดท้าย ปีนี้เขาก็อายุ ๒๐ ปีโดยไม่เคยเห็นเรื่องเหล่านั้นมาก่อนเลย
เพราะฉะนั้น..เด็กรุ่นหลังจึงไม่เข้าใจว่า ทำไมพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย ถึงได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจให้กับในหลวงได้ขนาดนั้น ต้องบอกว่าคนรุ่นหลังนี้เสียชาติเกิดจริง ๆ..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-01-2012 เมื่อ 10:47
|