ดูแบบคำตอบเดียว
  #80  
เก่า 22-09-2019, 20:26
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 30,495
ได้ให้อนุโมทนา: 151,165
ได้รับอนุโมทนา 4,405,503 ครั้ง ใน 34,084 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

พระอาจารย์กล่าวว่า "เมื่อครู่นี้ก่อนลงมา ดูคลิปที่เพื่อนส่งมาให้ดู มีการสอบเพื่อขอบัตรขอทานที่ทางภาคอีสาน ถ้าสอบไม่ได้ ไม่มีบัตรก็ห้ามขอทาน อาตมาก็เลยคิดว่า เออ..รัฐบาลของเราก้าวหน้า ในช่วงแรก ๔ ปีกว่า ๕ ปี เรามีบัตรคนจน ในช่วงสอง แค่ไม่กี่เดือนเริ่มมีบัตรขอทานแล้ว คงจะประสบความสำเร็จยิ่ง ๆ ขึ้นไป...!

ขอทานหรือวณิพกนั้น ส่วนใหญ่แล้วแสดงความสามารถแลกกับข้าวของเงินทอง ลักษณะที่เหมือนกับฝรั่งเปิดหมวกร้องเพลง ก็จะมีการทั้งร้อง ทั้งรำ ตีกรับ ตีฉิ่ง สมัยนี้ไม่ค่อยมี ยุคอาตมาเด็ก ๆ มีเยอะ จะมีเพลงขอทานโดยเฉพาะ "..เปิดหม้อไม่มีข้าวสุก เปิดสมุกไม่มีข้าวสาร พ่อแม่เอ๋ยได้โปรดทำทาน..ฯลฯ" เพลงยอดฮิตทั้งนั้นเลย เด็กรุ่นนี้ไม่รู้แล้วว่าสมุกหน้าตาเป็นอย่างไร

การขอทานสมัยก่อนที่เขามีการร้องเพลงแสดงตอบแทน เรียกว่าวณิพก ในส่วนนี้ต้องบอกว่าเป็นเทคนิคของเขา ถ้าบ้านไหนมีฐานะหน่อย เขาจะไม่ถอยง่าย ๆ ร่ำร้องโอดครวญอยู่นั่นแหละ ประเภทต้องให้แล้วให้อีกจนกว่าเขาจะพอใจจึงจะไป ก็เลยไปนึกถึงหมอทำขวัญนาค หมอทำขวัญนาคนี่แม่ตั้งท้องตั้ง ๙ เดือน เจ็บท้องร้องโอดโอยอยู่นั่นแหละ ไม่คลอดสักที จนต้องจ้างให้คลอด ถ้าเงินค่าเหล้าไม่พอ หมอทำขวัญนาคก็ร้องโอดโอยต่อไป นาคก็ไม่ต้องคลอดสักที"

__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-09-2019 เมื่อ 02:34
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 150 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา